Page 13 - การศึกษาประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ปุ๋ยชีวภาพสำหรับนาข้าวต่อการเจริญเติบโตและผลผลิตข้าวสังข์หยด จังหวัดพัทลุง
P. 13
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
3
หลักการและเหตุผล
ประเทศไทยเปนประเทศเกษตรกรรม ประชากรสวนใหญมีอาชีพการเกษตร โดยภาพรวม
มีพื้นที่ในการเกษตรทั้งหมด 132.49 ลานไร เปนพื้นที่ปลูกขาวในป 2556/2557 77.13 ลานไร ผลผลิต
รวม (นาปและนาปรัง) 36.76 ลานตัน พื้นที่ปลูกขาวในภาคใต 1.19 ลานไร ผลผลิตรวม (นาปและนา
ปรัง) 0.55 ลานตัน สําหรับจังหวัดพัทลุงมีพื้นที่ปลูกขาว 208,753 ไร ผลผลิตรวม (นาปและนาปรัง)
100,346 ตัน แตใหผลผลิตโดยเฉลี่ยนาปและนาปรัง 480 กิโลกรัมตอไร (สํานักงานสถิติการเกษตร,
http://www.oae.go.th/economicdata/secondrice57.html (สืบคนวันที่ 20 ส.ค.2559) โดย
ปจจัยในการเพิ่มผลผลิตขาวที่เกษตรกรใช คือ ปุยเคมี จึงทําใหเกษตรกรใชปุยเคมีเพิ่มมากขึ้นเพื่อการ
เรงการเจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิต ถึงแมในปจจุบันเกษตรกรจะมีความรูความเขาใจในการใชปุยเคมี
มากขึ้น โดยใชปุยตามคําแนะนําของนักวิชาการเกษตรทําใหมีปริมาณการใชปุยลดลง แตราคาตอหนวย
ของปุยเคมีในปจจุบันสูงขึ้นทําใหตนทุนในการผลิตของเกษตรกรยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ
“ขาวสังขหยด” ถือเปนขาวพันธุพื้นเมืองของจังหวัดพัทลุง ที่มีการปลูกและเปนที่นิยม
มานานหลายชั่วอายุคน ขาวสังขหยดจะมีลักษณะที่แตกตางจากขาวพันธุอื่น คือมีความไวตอชวงแสง
ไมตอบสนองตอปุยเคมี มีคุณคาทางโภชนาการสูง เหมาะสําหรับผูนิยมบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ กรม
วิชาการเกษตรไดประกาศออกหนังสือรับรองพันธุพืช ขึ้นทะเบียนชื่อพันธุ “ขาวสังขหยดพัทลุง”
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 และในปตอมาก็ไดดําเนินการเสนอคําขอขึ้นทะเบียนเปนสินคาสิ่ง
บงชี้ทางภูมิศาสตรเมื่อวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2549 ตามพระราชบัญญัติคุมครองสิ่งบงชี้ทาง
ภูมิศาสตร พ.ศ. 2546 ตอกรมทรัพยสินทางปญญา กระทรวงพาณิชย โดยใชชื่อสินคาวา “ขาวสังข
หยดเมืองพัทลุง” และศูนยวิจัยขาวพัทลุงก็ไดเสนอขอมูลทางวิชาการประกอบการพิจารณา เพื่อเปน
พันธุแนะนําทางราชการ เพื่อที่จะสงเสริมใหเกษตรกรปลูกตอไป ซึ่งผานการรับรองจากกรมการขาว
และกรมวิชาการเกษตร โดยใชชื่อวา“ขาวเจาพันธุสังขหยดพัทลุง”เมื่อวันที่ 23 เมษายนพ.ศ. 2550
(http://ptl.brrd.in.th/web/images/stories/news/s_yod1.pdf. (สืบคน 20 ส.ค.2559)
ขณะที่ในระบบนิเวศวิทยานาขาว มีจุลินทรียที่เปนประโยชนอาศัยอยูจํานวนมากและ
หลากหลายสายพันธุ ทั้งที่อยูในดินและสวนตางๆ ของพืชทั้งใบ ลําตน และราก มีทั้งชนิดที่อาศัยอยูใน
ดินรอบผนังเซลลพืช ภายในเซลลพืช หรือแมกระทั้งภายในทอน้ําทออาหารพืช โดยสวนใหญจะอยู
อาศัยกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน (hardoim et al., 2008) โดยมีหลายสายพันธุที่มีประสิทธิภาพสูงในการ
ตรึงไนโตรเจนจากอากาศ ละลายซิลิเกตในดิน และสรางสารเสริมการเจริญเติบโตที่เปนประโยชนแก
พืช เชน Pseudomonas sp. Burkholderia sp. และ Azorhizobium sp. เปนตน (jame et al.,
2002) ซึ่งแบคทีเรียเหลานี้จะมีประโยชนอยางมากในระบบการเกษตร โดยเฉพาะชวยลดตนทุนการใช
ปุยเคมีใหแกเกษตร ซึ่งถาสามารถแยกและคัดเลือกจุลินทรียกลุมดังกลาวไดและนํามาประยุกตใชใน
การผลิตขาวจะเปนประโยชนอยางมากแกเกษตร