Page 53 - สถานภาพการชะล้างพังทลายของดินในประเทศไทย Status of Soil Erosion in Thailand
P. 53
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
43
R = 0.4996X – 12.1415 (2.3)
เมื่อ R คือ ค่าปัจจัยการชะล้างพังทลายของฝน (เมตริกตันต่อเฮกแตร์ต่อปี)
X คือ ค่าปริมาณฝนเฉลี่ยรายปี (มิลลิเมตรต่อปี)
การสร้างชั้นข้อมูลค่า R - factor เพื่อใช้ในสมการสูญเสียดินสากล (USLE) นั้น Renard et al.
(1997) เสนอแนะ แนวทางการประเมินค่าปัจจัยการชะล้างพังทลายของฝน ณ จุดใด จุดหนึ่งจากแผนที่ศักย์
พลังงานฝน (isoerodent map) โดยวิธีการประมาณค่าแบบเชิงเส้น (linear Interpolation) ซึ่งเป็น
การใช้วิธีทางสถิติเข้ามาช่วยก าหนดการกระจายค่าปริมาณฝนจากเส้นศักย์พลังงานฝนเท่า (isoerodent)
ทุกๆ เส้นลงบนจุดพิกเซลของแผนที่ศักย์พลังงานฝน นั้น
วิธีสร้างชั้นข้อมูลปัจจัยการชะล้างพังทลายของฝน มีขั้นตอนดังนี้
1) การรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น
ท าการรวบรวมข้อมูลปริมาณฝนในแต่ละสถานีย้อนหลัง 30 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 - 2562
จากกรมอุตุนิยมวิทยา จ านวน 82 สถานีใน 52 จังหวัด หาค่าเฉลี่ยเป็นปริมาณฝนรายปี (ตารางภาคผนวกที่ 1)
2) การสร้างตารางข้อมูลฝน
สร้างตารางเพื่อใช้บันทึกข้อมูลฝนด้วยโปรแกรม Excel ประกอบด้วย 5 สดมถ์ (Column) คือ
สดมถ์ 1 Station_id บันทึกข้อมูลล าดับสถานี
สดมถ์ 2 NAME_sta บันทึกข้อมูลชื่อสถานีที่เก็บบันทึกข้อมูล (Station Name)
สดมถ์ 3 ST_LAT บันทึกข้อมูลค่าเส้นรุ้ง (Latitude) ของแต่ละสถานี
สดมถ์ 4 ST_LONG บันทึกค่าเส้นแวง (Longitude)
สดมถ์ 5 ANN บันทึกข้อมูลค่าปริมาณฝนรายปีของแต่ละสถานี
3) สร้างภาพเส้นชั้นน้ าฝน ดังนี้
(1) น าเข้าข้อมูลตารางปริมาณฝนเฉลี่ยรายปี ลงในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ArcGIS
(2) ประมวลผลด้วยโปรแกรมสารสนเทศภูมิศาสตร์ (ArcGIS) ด้วยวิธี (inverse distance weighted,
IDW) ซึ่งเป็นการประมาณค่าข้อมูลเชิงพื้นที่โดยอาศัยหลักการต าแหน่งใกล้เคียงกันย่อมมีความสัมพันธ์กัน
การประมาณค่าให้กับต าแหน่งที่ไม่ทราบค่าจากผลรวมเชิงเส้นของค่าที่ทราบ จากนั้นถ่วงน้ าหนักจุด และจ ากัด
ด้วยระยะทางจากจุดที่ไม่ทราบค่าไปยังจุดที่ทราบค่าจุดต่อไป ซึ่งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าจุดที่ยังไม่ทราบค่านั้น
ควรมีอิทธิพลจากจุดตัวอย่างที่อยู่ใกล้มากกว่าจุดตัวอย่างที่อยู่ไกล โดยระดับของอิทธิพลแปรผกผันกับระยะทาง
ระหว่างจุดซึ่งเพิ่มขึ้นตามค่ายกก าลัง การเลือกค่ายกก าลัง จะส่งผลอย่างมีนัยส าคัญต่อการประมาณค่า ต าแหน่ง
ที่อยู่ใกล้ที่สุดจะมีอิทธิพลมาก ซึ่งการเลือกจ านวนจุดที่ล้อมรอบมากจะส่งผลท าให้พื้นผิวมีความราบเรียบน้อยลง
โดยการประมวลผลใช้ขนาดของจุดพิกเซลของภาพเท่ากับ 30 x 30 เมตร
(3) ลดความคลาดเคลื่อน (Noise) ของข้อมูล ด้วยวิธี Smoothing เพื่อให้ได้ค่าปริมาณฝน ที่มีความ
ต่อเนื่องในทุกจุดพิกเซลของภาพ
4) สร้างภาพชั้นข้อมูลปัจจัยการชะล้างพังทลายของฝน
ใช้ค าสั่ง Raster Calculator แทนค่า X ด้วยค่าปริมาณน้ าฝนในสมการ (2.3) โดยแสดงผลแผนที่
ตามภาพที่ 2.3