Page 161 - รายงานการสำรวจดินเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำคลองวังยาวแปลงที่ สบ. 4 จังหวัดสระบุรี : พื้นที่ดำเนินการ บ้านหนองมะกรูด หมู่ที่ 12 บ้านซับสนุ่น หมู่ที่ 9 บ้านซับขอน หมู่ที่ 12 และบ้านหนองจอก หมู่ที่ 8 ตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ลุ่มน่ำสาขาแม่น้ำป่าสักตอนล่าง (รหัส 1208) ลุ่มน้ำหลักแม่น้ำป่าสัก (รหัส 12)

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
121

บทที่ 7

บทสรุป

จากการดําเนินการศึกษาและวิเคราะหทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่เขตพัฒนาที่ดินลุมน้ํา

คลองวังยาง และพื้นที่ดําเนินการ บานหนองมะกรูด หมูที่ 12 บานซับสนุน หมูที่ 9 บานซับขอน หมูที่
12 และบานหนองจอก หมูที่ 8 ตําบลหนองยางเสือ อําเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี โดยการรวบรวม
ขอมูลและการสํารวจเก็บขอมูลดานตาง ๆ ในภาคสนาม เพื่อนํามาวิเคราะหสภาพปญหาของพื้นที่

สําหรับใชเปนขอมูลพื้นฐานในการวางแผนการใชที่ดิน และกําหนดแนวทางการแกไขสภาพปญหาของ
พื้นที่ดังกลาว สามารถสรุปได ดังนี้

1. สรุปผลการศึกษา

1.1 การศึกษา การวิเคราะหขอมูลดานกายภาพ และสภาพปญหา เขตพัฒนาที่ดินลุมน้ํา
คลองวังยาง จังหวัดสระบุรี

เขตพัฒนาที่ดินลุมน้ําคลองวังยาง อยูในลุมน้ําสาขาแมน้ําปาสักตอนลาง (รหัส 1208)
ลุมน้ําหลักแมน้ําปาสัก (รหัส 12) มีเนื้อที่ 264,395 ไร หรือ 423.03 ตารางกิโลเมตร อยูในเขตพื้นที่
6 ตําบล ประกอบดวยพื้นที่ทั้งหมดของตําบลวังมวง และบางสวนของตําบลคําพราน อําเภอวังมวง

ตําบลหนองยางเสือ ตําบลซับสนุน ตําบลลําพญากลาง และตําบลลําสมพุง อําเภอมวกเหล็ก
จังหวัดสระบุรี สภาพภูมิประเทศสวนใหญเปนพื้นที่ราบเรียบถึงลาดชันเล็กนอยมาก ความลาดชัน
0-5 เปอรเซ็นต อยูสูงจากระดับทะเลปานกลางประมาณ 20-696 เมตร ลาดเทจากทางดานทิศ

ตะวันออกไปยังทิศตะวันตกของพื้นที่ และในพื้นที่มีเขื่อนปาสักชลสิทธิ์อยูบริเวณดานทิศตะวันตก
สําหรับเปนแหลงกักเก็บน้ําเพื่อใหเกษตรกรใชทําการเกษตร
สภาพภูมิอากาศในพื้นที่มีปริมาณน้ําฝนรวมตอปประมาณ 1,176.6 มิลลิเมตร

ชวงระยะเวลาที่เหมาะสมในการเพาะปลูกจะอยูในชวงตนเดือนเมษายน ถึงตนเดือนพฤศจิกายนซึ่ง
เปนชวงเวลาดินที่มีความชื้นและมีปริมาณน้ําฝนเพียงพอสําหรับการเจริญเติบโตของพืช
เขตพัฒนาที่ดินลุมน้ําคลองวังยาง จังหวัดสระบุรี อยูนอกเขตชลประทาน มีทางน้ํา

ธรรมชาติสายเล็ก ๆ ไหลผาน โดยมีทิศทางการไหลมาจากบริเวณดานทิศตะวันออก และไหลมา
บรรจบกันลงสูเขื่อนปาสักชลสิทธิ์ที่อยูบริเวณทิศตะวันตกของพื้นที่ลุมน้ํา นอกจากนี้ยังมีแหลงน้ํา
ผิวดิน ไดแก บอน้ําในไรนา จํานวน 37 บอ อางเก็บน้ํา 1 แหง ฝาย 4 แหง และแหลงน้ําใตดิน ไดแก

บอบาดาลจํานวน 238 บอ เปนบอน้ําเพื่อการเกษตรจํานวน 68 บอ และบอน้ําเพื่ออุปโภค-บริโภค
จํานวน 170 บอ

ดานทรัพยากรปาไมและเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พบวา มีพื้นที่อยูเขตปาไมตาม
กฎหมาย เนื้อที่ 62,842 ไร หรือรอยละ 23.77 อยูนอกเขตปาไมและเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
เนื้อที่ 201,553 ไร หรือรอยละ 76.23

สภาพการใชที่ดินสวนใหญเปนพื้นที่เกษตรกรรม มีเนื้อที่ 164,780 ไร หรือรอยละ
62.33 มีการปลูกพืชไรมากที่สุด มีเนื้อที่139,837 ไร รอยละ 52.89 ไดแก ออย ขาวโพด และ

มันสําปะหลัง เปนตน รองลงมาเปนทุงหญาเลี้ยงสัตว มีเนื้อที่ 12,466 ไร หรือรอยละ 4.71 พื้นที่