Page 42 - การจัดการดินเพื่อปลูกมันสำปะหลังในกลุ่มชุดดินที่ 28 จังหวัดสระบุรี ภายใต้โครงการนำร่องการผลิตพืชตามเขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันในประชาคมอาเซียน
P. 42
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
32
ตารางที่ 23 ผลผลิตมันสําปะหลังปีที่ 3
ผลผลิต วิธีการที่
วิธีการที่
(กิโลกรัมต่อไร่) 1 2 3 4 5
T1 4,642.20 ns * ns ns
T2 4,696.30 ns ns ns
T3 4,779.00 ** ns
T4 4,676.00 **
T5 4,552.20
หมายเหตุ: ns = ไม่มีความแตกต่างทางสถิติ, * = มีความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับความ
เชื่อมั่นที่ 95 %, ** = มีความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับความเชื่อมั่นที่ 99 %
4. ต้นทุนผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ
4.1 ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ปีที่ 1
ต้นทุนการผลิตต่อไร่ของการปลูกมันสําปะหลัง ซึ่งเป็นค่าแรงงาน ได้แก่ ค่าเตรียมดิน (ไถดะ
และชักร่อง) ค่าใส่ปุ๋ย ค่าปลูกเสียบท่อนพันธุ์ ค่ากําจัดวัชพืช ค่าเก็บเกี่ยว และค่าวัสดุ ได้แก่ ค่าท่อนพันธุ์
มันสําปะหลัง ค่าน้ําหมักชีวภาพ ค่าปุ๋ยเคมี พบว่า วิธีการที่ 1 มีต้นทุนการผลิตต่ําที่สุด คือ 5,593.88 บาทต่อไร่
ต้นทุนการผลิตส่วนใหญ่จะเป็นค่าแรงงาน เท่ากับ 4,598.88 บาทต่อไร่ ส่วนวิธีการที่ 4 มีต้นทุนการผลิต
สูงที่สุด คือ 5,947.31 บาทต่อไร่ ซึ่งค่าแรงการเก็บเกี่ยวผลผลิตจะแปรผันตามปริมาณผลผลิต คือ 500
บาทต่อตัน (ตารางที่ 24)
มูลค่าผลผลิตของการปลูกมันสําปะหลัง พบว่า วิธีการที่ 3 มีมูลค่าผลผลิตของการปลูก
มันสําปะหลังสูงสุด คือ 10,564.38 บาทต่อไร่ เนื่องจากมีปริมาณผลผลิตเท่ากับ 4,801.99 กิโลกรัมต่อไร่
รองลงมาคือวิธีการที่ 2 มีมูลค่าผลผลิตของการปลูกมันสําปะหลัง 10,320.18 บาทต่อไร่ มีปริมาณผลผลิต
เท่ากับ 4,690.99 กิโลกรัมต่อไร่ และวิธีการที่ 1 มูลค่าผลผลิตของการปลูกมันสําปะหลังต่ําสุด 9,895.07
บาทต่อไร่ มีปริมาณผลผลิตเท่ากับ 4,497.76 กิโลกรัมต่อไร่ (ตารางที่ 24)
รายได้สุทธิของการปลูกมันสําปะหลัง พบว่า วิธีการที่ 3 มีรายได้สุทธิของการปลูกมันสําปะหลัง
เท่ากับ 4,742.98 บาทต่อไร่ รองลงมาเป็นวิธีการที่ 2 มีรายได้สุทธิของการปลูกมันสําปะหลังเท่ากับ
4,419.68 บาทต่อไร่ ส่วนวิธีการที่ 1 มีรายได้สุทธิของการปลูกมันสําปะหลังต่ําที่สุดเท่ากับ 4,301.19
บาทต่อไร่ ซึ่งรายได้สุทธิการผลิตจะขึ้นอยู่กับมูลค่าผลผลิต เมื่อนํามาคิดเป็นรายได้สุทธิโดยเปรียบเทียบ
ต้นทุนการผลิต จึงมีผลทําให้ได้รายได้สุทธิ และมูลค่าผลผลิตจากการทดลองไปในทิศทางเดียวกัน
(ตารางที่ 24)
อัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน พบว่า โดยวิธีการที่ 3 มีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน
สูงสุด คือ 1.81 รองลงมา คือวิธีการทดลองที่ 1 มีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน คือ 1.77 และ วิธีการที่
4 และ 5 มีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุนต่ําสุด คือ 1.72 (ตารางที่ 24)