Page 62 - เปรียบเทียบพันธุ์หญ้าแฝกและพืชคลุมดินต่อการฟื้นฟูและการปรับปรุงสมบัติทางกายภาพและเคมีของดิน
P. 62
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
44
ดอนพันธุประจวบคีรีขันธมีปริมาณความชื้นในดินเฉลี่ยสูงสุด 15.66 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร รองลงมาไดแก
แปลงหญาแฝกพันธุราชบุรี พันธุสงขลา 3 พันธุรอยเอ็ด พันธุตรัง 2 พันธุนครสวรรค พันธุพระราชทาน
พันธุศรีลังกา พันธุสุราษฎรธานี ถั่วปนโต และถั่วเวอราโน มีปริมาณความชื้นในดินเทากับ 15.41 15.20 15.13
14.54 13.48 13.25 12.84 12.63 10.88 และ 10.17 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร ตามลําดับ สวนแปลงควบคุมมี
ความชื้นในดินต่ําที่สุด 9.49 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร เมื่อเปรียบเทียบปริมาณความชื้นในดินเฉลี่ยที่ระดับ 60
เซนติเมตร ระหวางแปลงควบคุม หญาแฝกและพืชคลุมดิน พบวาทุกกลุมมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญยิ่ง
ทางสถิติ ซึ่งแปลงหญาแฝกดอนมีความชื้นในดินสูงสุด 14.92 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร แปลงหญาแฝกลุมมี
ความชื้นในดิน 13.69 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร แปลงพืชคลุมดินมีความชื้นในดิน 10.52 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร
สวนแปลงควบคุมมีความชื้นในดินต่ําสุด 9.49 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร
(4) ปริมาณความชื้นในดินที่ระดับความลึก 100 เซนติเมตร
ปริมาณความชื้นในดินที่ระดับความลึก 100 เซนติเมตร ดังแสดงในตารางที่
15 พบวาทุกเดือนที่มีการวัดปริมาณความชื้นในดินมีความแตกตางกันอยางมีนัยสําคัญยิ่งทางสถิติ โดยแปลง
หญาแฝกลุมพันธุสงขลา 3 มีปริมาณความชื้นในดินสูงที่สุด 17.89 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร รองลงมาไดแก
แปลงหญาแฝกพันธุรอยเอ็ด พันธุประจวบคีรีขันธ พันธุศรีลังกา พันธุราชบุรี พันธุตรัง 2 พันธุพระราชทาน
พันธุสุราษฎรธานี พันธุนครสวรรค ถั่วเวอราโน และถั่วปนโต มีปริมาณความชื้นในดินเทากับ 15.54 14.74
14.33 14.26 14.13 13.66 12.07 11.25 9.56 และ 9.24 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร ตามลําดับ สวนแปลง
ควบคุมมีความชื้นในดินต่ําที่สุด 8.70 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร เมื่อเปรียบเทียบปริมาณความชื้นในดินเฉลี่ยที่
ระดับ 100 เซนติเมตร ระหวางแปลงควบคุม หญาแฝกและพืชคลุมดิน พบวาทุกกลุมมีความแตกตางกันอยางมี
นัยสําคัญยิ่งทางสถิติ ซึ่งแปลงหญาแฝกลุมมีความชื้นในดินสูงสุดเทากับ14.42 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร
ใกลเคียงกับแปลงหญาแฝกดอนมีความชื้นในดิน 13.95 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร แปลงหญาแฝกมีความชื้นสูง
กวาแปลงพืชคลุมดินเทากับ 9.40 เปอรเซ็นตโดยปริมาตร และแปลงควบคุมมีความชื้นในดินต่ําสุด 8.70
เปอรเซ็นตโดยปริมาตร
ในปที่ 1 พบวาตลอดระยะเวลาที่มีการวัดปริมาณความชื้นในดิน แปลงที่ไม
ปลูกพืช แปลงหญาแฝกและพืชคลมุดิน ปริมาณความชื้นดินมีความสัมพันธกับปริมาณน้ําฝนในแตละเดือน โดย
แปลงหญาแฝกลุมและหญาแฝกดอนจะมีปริมาณความชื้นในดินสูงกวาแปลงพืชคลุมดินและแปลงควบคุม ถา
พิจารณาที่ระดับความลึก 40 เซนติเมตร ดินที่ปลูกหญาแฝกดอนพันธุรอยเอ็ดมีปริมาณความชื้นดินมากที่สุด
อาจเปนเพราะหญาแฝกดอนมีการใชน้ําในการเจริญเติบโตนอยกวาหญาแฝกลุม สอดคลองกับอภันตรี และ
คณะ (2548) รายงานวาหญาแฝกดอนมีการใชน้ําเฉลี่ย 259 ลูกบาศกเซนติเมตรตอกอตอวัน ใชน้ํานอยกวา
หญาแฝกลุมที่ใชน้ําเฉลี่ย 316 ลูกบาศกเซนติเมตรตอกอตอวัน โดยพันธุหญาแฝกที่ใชน้ํานอยที่สุดคือ พันธุ
รอยเอ็ด พันธุราชบุรี นอกจากนี้น้ําหนักใบหญาแฝกดอนที่ตัดใบคลุมดินทําใหลดอุณหภูมิ และลดการระเหย
ของน้ําในดินบนได ใบหญาแฝกดอนมีแนวโนมยอยสลายไดชาเนื่องจากใบมีลักษณะแข็งกวาใบหญาแฝกลุม
ทั้งนี้ถานําหญาแฝกดอนปลูกรวมกับพืชผักและปลูกพืชไร จะมีความเหมาะสมมากที่สุด สําหรับระดับความลึกที่
100 เซนติเมตร ดินที่ปลูกหญาแฝกลุมพันธุสงขลา 3 มีปริมาณความชื้นดินมากที่สุด จะมีความสัมพันธกับความ
ยาวราก และมวลชีวภาพของราก จึงเหมาะสมกับการปลูกหญาแฝกรวมกับพื้นที่ปลูกไมผลและไมยืนตน ที่มี
ระบบรากลึก รองลงมาไดแก หญาแฝกดอนพันธุรอยเอ็ด ซึ่งสอดคลองกับเอกสารแนะนําของสํานักวิจัยและ
พัฒนาการจัดการที่ดิน (มปป.) การเลือกหญาแฝกลุมหรือหญาแฝกดอนใชประโยชนใหเหมาะสมกับพื้นที่ตอง
คํานึงถึงพืชหลักและการดูแลปฏิบัติ เชน พืชไรควรใชหญาแฝกดอน สําหรับไมผล ควรใชหญาแฝกลุม
นอกจากนี้ในทางปฐพีกลศาสตรไดนําหญาแฝกมาวิจัยในเชิงวิศวกรรม โดยหญาแฝกจะสามารถสรางความ
แข็งแรงของมวลดินไดซึ่งหญาแฝกพันธุสงขลา 3 จะมีคาความแข็งแรงของมวลดินมากกวาหญาแฝกดอนพันธุ
นครสวรรค รากหญาแฝกจะมีสวนชวยเพิ่มคาความเชื่อมแนนของดินใหเพิ่มขึ้นซึ่งจะมีผลตออัตราสวนความ
ปลอดภัยของลาดคันดินได ทั้งนี้ความแข็งแรงของมวลดินจะเปลี่ยนแปลงตามปริมาณความชื้นของดินที่
เปลี่ยนไป (พานิช และคณะ, 2545)