Page 99 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
P. 99
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
75
บทที่ 5
สรุปผลการศึกษา
5.1 ผลการศึกษา
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์สภาพพื้นที่ การจัดระบบอนุรักษ์
ดินและน้่า และทัศนคติของเกษตรกรที่มีต่อการอนุรักษ์ดินและน้่า โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี
บ้านดอยช้าง หมู่ที่ 3 ต่าบลวาวี อ่าเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
5.1.1 การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของพื้นที่
จากการวิเคราะห์พื้นที่เป้าหมาย พบว่าพื้นที่มีความสูงจากระดับทะเลปานกลางประมาณ
780 – 1,000 เมตร สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เนินเขาสูงชันถึงภูเขาสูงชันมาก มีความลาดชัน 20 -75
เปอร์เซ็นต์ หรือร้อยละ 83 ของพื้นที่โครงการ โดยจากการประเมินปริมาณน้่าไหลบ่า พื้นที่เป้าหมายมี
ปริมาณน้่าไหลบ่ารวม 123,569.35 ลูกบาศก์เมตร อัตราของน้่าไหลบ่ารวม 14.49 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
เกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดินหลักในการปลูกพืชไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้น สลับป่าโปร่ง ไม่มีมาตรการอนุรักษ์
ดินและน้่า เกษตรกรที่ร่วมโครงการเป็นชาวเขาเผ่าอาข่าและลีซอ พื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ ส่วนใหญ่เกิด
ปัญหาการชะล้างพังทลายของหน้าดิน ขาดการปรับปรุงบ่ารุงดินที่เหมาะสม ส่งผลให้ความอุดมสมบูรณ์
ของดินต่่า ชุดดินที่พบในพื้นที่มี 2 ชุดดิน 7 หน่วยแผนที่ดิน มีลักษณะดินเป็นดินลึกมากและมีระบบ
อุณหภูมิดินแบบเทอร์มิก เนื้อดินเป็นพวกดินเหนียวลึกปานกลางถึงลึกมาก ปริมาณน้่าฝนรวมเฉลี่ยทั้งปี
1,656 มิลลิเมตร ซึ่งจากผลการวิเคราะห์ค่าสมบัติทางเคมีของดิน พบว่า ดินก่อนด่าเนินการและหลัง
ด่าเนินการมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยการปลูกไม้ผล
ไม้ยืนต้นในระยะเริ่มต้น จากการวิเคราะห์พื้นที่สามารถน่ามาเป็นตัวก่าหนดมาตรการอนุรักษ์ดินและน้่า
ทั้งมาตรการวิธีกลและวิธีพืช สามารถช่วยชะลอการสูญเสียดินได้ ซึ่งกิจกรรมทั้งทางวิธีกลและวิธีพืช
สามารถลดการชะล้างพังทลายของดิน ไม่ให้ก่อให้เกิดความเสียหายในพื้นที่การเกษตร
5.1.2 การจัดท่าระบบอนุรักษ์ดินและน้่า
ด่าเนินการจัดท่าระบบอนุรักษ์ดินและน้่า ตามมาตรการอนุรักษ์ดินและน้่าที่ก่าหนด ให้
เหมาะสมกับสภาพพื้นที่โดยด่าเนินการก่อสร้างคูรับน้่าขอบเขา (คันดินแบบที่ 6) ความยาว 37.96
กิโลเมตร และก่อสร้างขั้นบันไดดิน 27 ไร่ ควบคู่กับการปลูกไม้ยืนต้นหรือไม้ผล และหญ้าแฝกเพื่อเป็นการ
ป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดิน และจากการประเมินการสูญเสียดิน พบว่า ก่อนการจัดระบบ
อนุรักษ์ดินและน้่า มีปริมาณการสูญเสียดินเฉลี่ยเท่ากับ 67.18 ตันต่อไร่ต่อปี และหลังด่าเนินการสามารถลด
ปริมาณการสูญเสียดินลงได้ประมาณ 16 - 88 เปอร์เซ็นต์ แต่ในหลายชนิดพืชและความลาดชันที่สูง ยังคง
ท่าให้มีค่าอัตราการสูญเสียดินสูงกว่าค่าที่ยอมรับ คือ 2 ตันต่อไร่ต่อปี อาจเป็นผลเนื่องมาจากเกษตรกรให้
ความสนใจในการใช้หญ้าแฝกน้อย หากสามารถเสริมหญ้าแฝกเข้าไปตามแนวคูรับน้่าขอบเขาแบบ 6 ได้
มากยิ่งขึ้น จะสามารถช่วยลดปริมาณการสูญเสียดินให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และหากมีการส่งเสริมให้
เกษตรกรปลูกไม้ยืนต้นให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถเป็นวิธีช่วยลดการสูญเสียดินได้อีกทางหนึ่งด้วย

