Page 98 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
P. 98

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                                                                        74


                   พังทลายของดิน และลดความรุนแรงของน้่า  และสามารถใช้พื้นที่ระหว่างคันดินเป็นพื้นที่เพาะปลูกพืชไร่
                   เช่น ข้าวโพด ข้าวไร่  ส่วนพื้นที่ราบบนคูรับน้่ารอบเขา ส่งเสริมปลูกไม้โตเร็ว ไม้ยืนต้นบนคันดิน ส่วนขอบ
                   คันดิน ปลูกหญ้าแฝก เพื่อป้องกันการพังทลายของคันดิน และรักษาความชุ่มชื้นให้กับต้นไม้ เกษตรกร

                   มากกว่าร้อยละ 60 สามารถเข้าใจและรับรู้ถึงกรรมวิธีต่าง ๆ ที่ช่วยในการรักษาและป้องกันการชะล้าง
                   พังทลายของดินได้
                                         (2) การปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้่า หญ้าแฝกสามารถป้องกันการ
                   ชะล้างพังทลายของดินและลดการไหลบ่าของน้่าได้ ช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์และมีธาตุอาหารที่จ่าเป็น

                   ส่าหรับการเจริญเติบโตของพืช นอกจากนี้เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ดินและต้นไม้ที่ปลูก หญ้าแฝกมี
                   ระบบรากที่ลึก สามารถดูดความชื้นจากใต้ดินมาสู่บนผิวดินท่าให้ผิวดินมีความชุ่มชื้น โดยใช้หญ้าแฝกสาย
                   พันธุ์แฝกลุ่ม เป็นสายพันธุ์ศรีลังกา เจริญเติบโตได้ดี มีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้

                   ดีและค่อนข้างรวดเร็ว ซึ่งเหมาะกับสภาพพื้นที่ แนะน่าให้ปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 5 - 10 เซนติเมตร
                   เป็นแถวตามแนวขอบคันดิน และขอบทางล่าเลียงในไร่นา  ซึ่งจากการสัมภาษณ์เกษตรกรร้อยละ 80
                   ทราบดีว่าหญ้าแฝกช่วยในการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินได้เป็นอย่างดี
                                  2) การปรับปรุงบ่ารุงดิน
                                         (1)  การผลิตปุ๋ยหมักจากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ซังข้าวโพด เปลือก

                   เมล็ดกาแฟ เป็นต้น ร่วมกับการใช้สารเร่งซุปเปอร์ พด.1 เพื่อปรับโครงสร้างดิน และเพิ่มความอุดม
                   สมบูรณ์ให้กับดิน ส่งเสริมการผลิตปุ๋ยหมักจาก สารเร่งซุปเปอร์ พด.1  ซึ่งจะมีจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยสลาย
                   อินทรียวัตถุได้รวดเร็วขึ้น ลดระยะเวลาการหมักให้สั้นลง โดยแนะน่าไปใช้โรยใส่ต้นไม้บริเวณรอบทรงพุ่ม

                   เพียงปีละ 2-3 ครั้ง และใช้รองก้นหลุม หรือหว่านรอบๆ โคนต้นซึ่งจะท่าให้ดินร่วนซุยขึ้น
                                     (2)  การผลิตน้่าหมักชีวภาพ แนะน่าให้มีการผลิตน้่าหมักไว้ใช้เองในครัวเรือน โดยใช้
                   สารเร่งซุปเปอร์ พด.2 อัตราการใช้ผสมน้่าหมักชีวภาพเข้มข้น 1 ลิตรต่อน้่าสะอาด 500 ลิตร ฉีดพ่นที่ใบ
                   และล่าต้นพืชผัก ไม้ผล เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืช เพิ่มการขยายตัวของใบ และการยืดตัวของล่าต้น

                   ท่าให้ออกดอกและติดผลดีขึ้น
                                     (3) การผลิตน้่าหมักสมุนไพร จากสารเร่งพด.7 เพื่อผลิตสารป้องกันก่าจัดแมลงศัตรูพืช
                   และลดต้นทุนการใช้สารเคมี  ในการใช้แนะน่าให้ผสมในอัตราสารป้องกันแมลงเข้มข้น 1 ลิตร ต่อน้่า
                   สะอาด 200 ลิตร  อัตราการฉีดพ่น 100 ลิตรต่อไร่ ที่ใบและล่าต้น และรดลงดินทุก ๆ 10 – 20 วัน หรือ

                   ในช่วงที่มีแมลงศัตรูพืชระบาดให้ฉีดพ่นทุกๆ 3 วัน ติดต่อกัน 3 ครั้ง
   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102   103