Page 38 - การจัดการดินเพื่อปลูกมันสำปะหลังในกลุ่มชุดดินที่ 56 จังหวัดตากโครงการนำร่องการผลิตพืชตามเขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันในประชาคมอาเซียน
P. 38
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
25
ผลการทดลองและวิจารณ
การศึกษาการจัดการดินเพื่อปลูกมันสําปะหลังในกลุมชุดดินที่ 56 จังหวัดตาก โครงการนํารอง
การผลิตพืชตามเขตการใชที่ดินพืชเศรษฐกิจเพื่อพัฒนาขีดความสามารถการแขงขันในประชาคมอาเซียน
โดยศึกษาการเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน การเจริญเติบโตของมันสําปะหลัง และผลผลิตมัน
สําปะหลัง รวมถึงผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ มีผลการทดลอง ดังตอไปนี้
1. การเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดิน
คาความเปนกรดเปนดางของดิน พบวา กอนการทดลองดินมีคาความเปนกรดเปนดางอยูใน
ระดับกรดจัดถึงกรดปานกลาง (pH 5.2-5.6) หลังการทดลองคาความเปนกรดเปนดางของดินมีการ
เปลี่ยนแปลงเล็กนอย โดยตํารับการทดลองที่ 1 2 และ 3 มีคาลดลงจาก 5.6 ในทุกตํารับการทดลองเปน
5.4 5.3 และ 5.2 ตามลําดับ อาจเปนผลเนื่องมาจากมีการใชปุยเคมี สอดคลองกับผลการทดลองของยุทธ
ชัย (2530) ซึ่งพบวาการใชปุยเคมีทําใหความเปนกรดเปนดางของดินลดลง เนื่องจากอนุภาคของปุยบาง
ชนิด เชน แอมโมเนียมไออน สามารถเขาไปไลที่ไฮโดรเจนไอออนที่ไมถูกดูดยึดเพิ่ม ทําใหดินเปนกรด
เพิ่มขึ้น สวนตํารับการทดลองที่ 4 และ 5 มีคาเพิ่มขึ้นเล็กนอยจาก 5.2 เปน 5.5 ทั้ง 2 ตํารับการทดลอง
เนื่องจากมีการใสปูนโดโลไมทกอนปลูกมันสําปะหลังในอัตรา 300 กิโลกรัมตอไร (ตารางที่ 6)
ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน พบวา กอนการทดลองดินมีปริมาณอินทรียวัตถุเทากับ 0.94-1.05
เปอรเซ็นต จัดอยูในระดับต่ํา หลังการทดลองปริมาณอินทรียวัตถุในทุกตํารับการทดลองมีแนวโนมลดลง
โดยตํารับการทดลองที่ 3 มีปริมาณอินทรียวัตถุสูงสุดเทากับ 0.68 เปอรเซ็นต รองลงมาคือ ตํารับการ
ทดลองที่ 4 1 2 และ 5 มีปริมาณอินทรียวัตถุเทากับ 0.65 0.63 0.62 และ 0.57 เปอรเซ็นต ตามลําดับ
ปริมาณอินทรียวัตถุมีแนวโนมลดลงทุกตํารับการทดลอง ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากกิจกรรมของจุลินทรียในดิน
มีการยอยสลายเศษซากพืชจึงทําใหคาวิเคราะหดินที่ไดต่ํากวาการทดลองเล็กนอย (ตารางที่ 6)
ปริมาณฟอสฟอรัสที่เปนประโยชน พบวา กอนการทดลองดินมีปริมาณฟอสฟอรัสที่เปนประโยชน
อยูในชวง 1-4 มิลลิกรัมตอกิโลกรัม จัดอยูในระดับต่ํามาก หลังการทดลองปริมาณฟอสฟอรัสที่เปน
ประโยชนในดินทุกตํารับการทดลองมีคาเพิ่มขึ้นอยางชัดเจน อยูในระดับสูงถึงสูงมาก (37-63 มิลลิกรัมตอ
กิโลกรัม) โดยตํารับการทดลองที่ 5 มีปริมาณสูงสุดเทากับ 63 มิลลิกรัมตอกิโลกรัม รองลงมาคือตํารับที่ 1
4 3 และ 2 มีปริมาณเทากับ 47 41 39 และ 37 มิลลิกรัมตอกิโลกรัม ตามลําดับ ปริมาณฟอสฟอรัสที่
เพิ่มขึ้นเปนผลเนื่องมาจากมีการใชปุยฟอสฟอรัส พืชไมสามารถนําไปใชไดทั้งหมด จึงสะสมอยูในดิน
(ตารางที่ 6)
ปริมาณโพแทสเซียมที่เปนประโยชน พบวา ดินกอนการทดลองมีปริมาณโพแทสเซียมที่เปน
ประโยชนเทากับ 30 และ 40 มิลลิกรัมตอกิโลกรัม จัดอยูในระดับต่ํา หลังการทดลองปริมาณโพแทสเซียม
ที่เปนประโยชนในดินทุกตํารับการทดลองมีคาเพิ่มขึ้นขัดเจน อยูในระดับสูงมาก (110-260 มิลลิกรัมตอ
กิโลกรัม) ซึ่งโพแทสเซียมมีความสําคัญในการสรางและการเคลื่อนยายอาหารพวกแปงและน้ําตาลไปเลี้ยง
สวนที่เจริญเติบโต และสงไปเก็บไวเปนเสบียงที่หัวหรือลําตน ดังนั้นพืชพวกออย มะพราว และมัน