Page 20 - ผลของปริมาณจุลธาตุสังกะสีในดินต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพข้าว ในพื้นที่นาข้าวลุ่มน้ำปากพนัง

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
12

2.2 สภำพภูมิอำกำศ

พื้นที่ลุ่มน้้ำปำกพนัง ได้รับอิทธิพลจำกลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และลมมรสุม
ตะวันออกเฉียงเหนือ ท้ำให้เกิดฤดูกำล 2 ฤดู คือ ฤดูฝน และฤดูร้อน ส้ำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้

ที่พัดผ่ำนช่วง เดือนพฤษภำคม ถึง เดือนตุลำคม ท้ำให้มีฤดูฝนในบริเวณพื้นที่ไม่มำกนัก เพรำะมีภูเขำสูง
ด้ำนทิศตะวันตกขวำงทิศทำงลมไว้ ส่วนลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดผ่ำนบริเวณอ่ำวไทยในช่วง

เดือนพฤศจิกำยน ถึง เดือนธันวำคม ท้ำให้มีปริมำณฝนตกชุก และน้้ำท่วมในบริเวณพื้นที่ (ธีรชำต และ

คณะ)
2.2.1 อุณหภูมิ อุณหภูมิในพื้นที่โครงกำรลุ่มน้้ำปำกพนังในแต่ละเดือนไม่ค่อยแตกต่ำงกันมำกนัก

ไม่ร้อน และไม่เย็นเกินไป อุณหภูมิอยู่ในช่วงที่พอเหมำะ เฉลี่ย 26.2-28.3 องศำเซลเซียส โดยอุณหภูมิ
เฉลี่ยตลอดปี 27.2 องศำเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดไม่เกิน 33.6 องศำเซลเซียสในเดือนเมษำยน และ

อุณหภูมิต่้ำสุด 22.7 องศำเซลเซียสในเดือนกุมภำพันธ์ (กรมพัฒนำที่ดิน, 2561)

2.2.2 ควำมชื้นสัมพัทธ์ พื้นที่ลุ่มน้้ำปำกพนัง มีควำมชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยค่อนข้ำงสูงเกือบตลอดปีมี
ควำมชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดปีร้อยละ 84.8 ควำมชื้นสัมพัทธ์สูงสุดเฉลี่ยร้อยละ 95 ต่้ำสุดเฉลี่ยร้อยละ 62

(กรมพัฒนำที่ดิน, 2561)
2.2.3 กำรคำยระเหย ปริมำณกำรคำยระเหยของพืชที่สถำนีตรวจอำกำศ จังหวัดนครศรีธรรมรำช

พบว่ำ มีค่ำกำรระเหยเฉลี่ยรำยปี 1,428.2 มิลลิเมตร ช่วงที่มีค่ำกำรคำยระเหยต่้ำอยู่ในช่วงเดือน

พฤศจิกำยนถึงเดือนธันวำคม มีค่ำเท่ำกับ 79–83 มิลลิเมตรต่อเดือน ช่วงที่มีค่ำกำรระเหยสูงอยู่ในช่วง
เดือนมีนำคมถึงเดือนเมษำยน มีค่ำเท่ำกับ 122–124 มิลลิเมตรต่อเดือน (กรมพัฒนำที่ดิน, 2561)