Page 22 - ผลของปริมาณจุลธาตุสังกะสีในดินต่อการเจริญเติบโตและคุณภาพข้าว ในพื้นที่นาข้าวลุ่มน้ำปากพนัง
P. 22
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
14
เส้นปริมำณน้้ำฝนอยู่ เหนือเส้น 0.5 PET แสดงว่ำมีปริมำณน้้ำฝนมำกกว่ำกำรคำยระเหยน้้ำ ดินจะเริ่มมี
ควำมชุ่มชื้นในช่วงประมำณปลำยเดือนกรกฎำคม จนถึงกลำงเดือนตุลำคม ดินจะชุ่มชื้นมำก และมีปริมำณ
ฝนตกมำกขึ้นเนื่องจำกเป็นฤดูมรสุมมีแนวโน้มที่ท้ำให้ มีปริมำณน้้ำมำกเกินพอที่จะเก็บไว้ในดินน้้ำอำจไหล
บวมพื้นที่เพำะปลูกได้ (กรมพัฒนำที่ดิน, 2561)
ภำพที่ 2 สมดุลของน้้ำเพื่อกำรเกษตร (Water Balance)
ชวงเพำะปลูกที่เหมำะสมอยู่ระหว่ำงต้นเดือนกุมภำพันธ์ ถึงกลำงเดือนมีนำคม และ
จำกเดือนธันวำคมถึงต้นเดือนกุมภำพันธ์ อำจมีฝนแล้ง หรือฝนทิ้งช่วง ต้องมีแหล่งน้้ำเก็บไว้เพื่อขำดแคลน
2.3 ลักษณะภูมิประเทศ (กรมพัฒนำที่ดิน, 2542)
สภำพภูมิประเทศของลุ่มน้้ำปำกพนัง ประกอบด้วยเทือกเขำสงชันทำงด้ำนตะวันตกของพื้นที่
ลุ่มน้้ำปำกพนัง โดยกำรทอดตัวยำวตำมแนวเหนือ-ใต้ เกือบขนำนกับแนวชำยฝั่งทะเล สภำพของพื้นที่จะ
ลำดเอียงลงมำทำงด้ำนตะวันออกของลุ่มน้้ำจนถึงชำยฝั่งทะเล สำมำรถแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ลักษณะ คือ
1) บริเวณที่เป็นเทือกเขำบรรทัดทำงด้ำนตะวันตกของพื้นที่ลุ่มน้้ำ อันเป็นแหล่ง
ต้นก้ำเนิดของลุ่มน้้ำปำกพนัง มีควำมลำดชันของพื้นที่โดยเฉลี่ย มำกกว่ำร้อยละ 35
2) จำกพื้นที่พื้นที่ภูเขำมำทำงด้ำนตะวันออก สภำพพื้นที่จะค่อยๆ ลำดลงมำเป็น
ที่ลำดเชิงเขำ มีลักษณะพื้นที่เป็นลูกคลื่นลอนชัน ถึงพื้นที่ค่อนข้ำงรำบเรียบ
3) ถัดลงมำตอนกลำงของพื้นที่ลุ่มน้้ำจะปรำกฏมีแนวสันทรำยทะเลเก่ำอยู่ 2 แนว
ทอดตัวตำมแนวเหนือใต้ และในระหว่ำงแนวของสันทรำยทะเลเก่ำทั้งสองนี้จะเป็นที่รำบลุ่มต่้ำประกอบไป
ด้วยพื้นที่ที่เป็นพรุ และพื้นที่ที่เป็นดินเปรี้ยวจัดเป็นส่วนใหญ่