Page 8 - ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับการจัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำบนพื้นที่ลุ่ม-ดอน เขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำคลองหล่อยูง-คลองในหยง ของเกษตรกรตำบลหล่อยูง อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
P. 8
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
1
ชื่อโครงการ ปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับการจัดท้าระบบอนุรักษ์ดินและน้้าบนพื้นที่ลุ่ม-ดอน
เขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้้าคลองหล่อยูง-คลองในหยงของเกษตรกรต้าบลหล่อยูง
อ้าเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา
Factors Affecting the Farmer’s Adoption of Soil and Water
Conservation on Lowland-Upland Area in Land Development Zone,
Klong Lo Yung-Klong Nai Young Watershed,Lo Yung Subdistrict
TakuaThung District, Phangnga Province.
ผู้ด าเนินการ นางสาวอังคารมาศ ลีนิน Miss AngkarnmasLeenin
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานข้อมูลเศรษฐกิจและสังคมการยอมรับ
และปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับการจัดท้าระบบอนุรักษ์ดินและน้้า ตลอดจนปัญหาและข้อเสนอแนะ
เกี่ยวกับการจัดท้าระบบอนุรักษ์ดินและน้้าบนพื้นที่ลุ่ม-ดอน เขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้้าคลองหล่อยูง-คลอง
ในหยง ของเกษตรกรต้าบลหล่อยูง อ้าเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์เกษตรกร
กลุ่มตัวอย่างที่อยู่ในพื้นที่จัดท้าระบบอนุรักษ์ดินและน้้า จ้านวน 118 ราย จากการสุ่มตัวอย่างแบบ
ธรรมดา โดยการจับฉลากจากประชากรทั้งหมด 170 ราย คิดเป็นร้อยละ 69.4 ของประชากร
ผลการวิจัยพบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ 79.66 เป็นเพศชายมีอายุเฉลี่ย 51.60 ปี
ส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 4และอนุปริญญาหรือเทียบเท่า คิดเป็นร้อยละ 22.03
โดยเกษตรกรร้อยละ79.66เป็นสมาชิกกลุ่มลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรมี
รายได้ในครอบครัวทั้งหมดเฉลี่ย 189,643.36 บาทต่อปี มีขนาดพื้นที่ถือครองเฉลี่ย 12.86 ไร่ มีการ
ใช้แรงงานในการท้าการเกษตรเฉลี่ย 2.14 คนต่อครัวเรือน มีการกู้ยืมเงินร้อยละ86.44 มีการติดต่อ
เจ้าหน้าที่พัฒนาที่ดิน 3-4 ครั้งต่อปีร้อยละ 35.59 ได้รับการฝึกอบรมปีละครั้งร้อยละ 28.81 ทัศนคติ
ของเกษตรกรที่มีต่อการจัดท้าระบบอนุรักษ์ดินและน้้าและต่อเจ้าหน้าที่พัฒนาที่ดินเป็นไปในทางที่ดี
การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับการจัดท้าระบบอนุรักษ์ดินและน้้าของเกษตรกรในพื้นที่ พบว่า
ขนาดพื้นที่ถือครอง ทัศนคติต่อการจัดท้าระบบอนุรักษ์ดินและน้้า และทัศนคติต่อเจ้าหน้าที่พัฒนา
ที่ดิน มีผลต่อการยอมรับการจัดท้าระบบอนุรักษ์ดินและน้้าบนพื้นที่ลุ่ม-ดอน อย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติ
ที่ระดับ 0.05 และการหาความรู้จากสื่อมวลชน มีผลต่อการยอมรับการจัดท้าระบบอนุรักษ์ดินและน้้า
บนพื้นที่ลุ่ม-ดอน อย่างมีนัยส้าคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ปัญหาที่พบ คือ อาคารชะลอความเร็วของ
น้้าที่ก่อสร้างเกิดการช้ารุดบางส่วน เนื่องจากฝนตกหนัก และปริมาณน้้าไหลบ่ามากกว่าปกติ
ข้อเสนอแนะจากเกษตรกร คือ ปรับรูปแบบอาคารชะลอความเร็วของน้้า เพิ่มการประชาสัมพันธ์
โครงการและควรมีการจัดท้าระบบอนุรักษ์ดินและน้้าในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง