Page 88 - การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดินภาคสนามสำหรับการจัดการปุ๋ยเพื่อการปลูกพืชผักในจังหวัดลำพูน
P. 88
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
75
มีปริมาณ ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม ในระดับสูงหรือสูงมาก จึงไม่จ าเป็น เพราะนอกจากจะเป็นการ
สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายด้านปุ๋ย โดยไม่เกิดผลดีส าหรับการเพิ่มผลผลิตแล้ว ยังจะท าให้ดินมีการสะสม
ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม เพิ่มมากขึ้น และอาจส่งผลท าให้เกิด ภาวะการขาดสมดุลของธาตุอาหาร
พืชในระยะยาวอีกด้วย
เนื่องจากค าแนะน าในการใส่ปุ๋ยส าหรับการปลูกผักคะน้าและหอมแบ่ง ร่วมกับการใช้ชุด
ตรวจดินภาคสนาม กรมพัฒนาที่ดิน ยังไม่เหมาะสมเท่าที่ควร เพราะไม่สอดคล้องกับปริมาณการดูด
ใช้ธาตุอาหารหลักของพืช การใช้หลักเกณฑ์ในการให้ค าแนะน าปุ๋ยที่น าเอาผลผลิตและการดูดใช้ธาตุ
อาหารหลักของพืชมาพิจารณาในการก าหนดอัตราปุ๋ย น่าจะเป็นแนวทางที่เหมาะสมมากกว่า ซึ่งควร
ที่จะศึกษาต่อในขั้นตอนต่อไป
การทดสอบประสิทธิภาพของชุดตรวจดินภาคสนาม ในการให้ค าแนะน าปุ๋ยในพื้นที่อื่น ๆ ซึ่ง
มีดินและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ก็เป็นงานวิจัยที่จ าเป็นเพื่อให้การใช้ประโยชน์ของชุดตรวจดิน
ภาคสนาม กรมพัฒนาที่ดิน มีความเหมาะสมและถูกต้อง ในการน าไปใช้ต่อไป โดยเฉพาะการศึกษา
ในพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของดินต่ า และเกษตรกรยังมีการใช้ปุ๋ยไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม
ในการน าชุดตรวจสอบดินภาคสนาม กรมพัฒนาที่ดินไปใช้จ าเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการ
ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ หมอดินอาสา และเกษตรกรที่สนใจอย่างเข้มข้น โดยเน้นการฝึกปฏิบัติจริง ให้
สามารถใช้ชุดตรวจดินภาคสนามได้อย่างถูกต้อง และสามารถแปลผลการวิเคราะห์ เพื่อสามารถ
ก าหนดอัตราการใส่ปุ๋ยได้อย่างเหมาะสม แต่ในการแปลผลการวิเคราะห์ดิน เพื่อให้ค าแนะน าการใส่
ปุ๋ย เจ้าหน้าที่ ของกรมพัฒนาที่ดินต้องได้รับการฝึกอบรมและเพิ่มพูนความรู้ด้านวิชาการที่เกี่ยวข้อง
กับธาตุอาหารพืชเพิ่มเติมให้มากขึ้น
