Page 11 - การวิเคราะห์ศักยภาพของที่ดินเพื่อวางแผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำแม่น้ำชี
P. 11
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
บทที่ 1
บทนํา
1.1 หลักการและเหตุผล
การพัฒนาการเกษตรของประเทศไทยที่ผ่านมา ได้มีการนําเอาทรัพยากรธรรมชาติไปใช้
ประโยชน์อย่างมากมาย โดยขาดการบริหารจัดการอย่างมีระบบเป็นผลให้ทรัพยากรธรรมชาติ
เกิดความเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร โดยเฉพาะทรัพยากรดิน
ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของการพัฒนา ทรัพยากรด้านเกษตรกรรมอุตสาหกรรม การประกอบอาชีพและ
กิจกรรมอื่นๆ การใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ขาดความเชื่อมโยงซึ่งกันและกันในภาพรวม ก่อให้เกิด
ผลกระทบกับสถานภาพทรัพยากรด้านอื่นๆ ซึ่งการใช้ประโยชน์ที่ดินในลุ่มนํ้าควรคํานึงถึงหลักการ
ทางระบบนิเวศเป็นหลักในการดําเนินกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์ หรือการพัฒนา ทําให้
การใช้ทรัพยากรธรรมชาติเป็นไปอย่างฟุ่มเฟือย ถ้าขาดการระมัดระวังในการบริหารจัดการอย่างไม่
เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ และการการเสื่อมโทรมของทรัพยากรดินและนํ้า
ซึ่งเป็นการทําลายแหล่งต้นนํ้าลําธารจนก่อให้เกิดความไม่สมดุลตามธรรมชาติ อันจะก่อให้เกิดผลเสีย
ต่อความเป็นอยู่ของเกษตรกรและการประกอบอาชีพเกษตรกรรมโดยรวมของประเทศ
ดังนั้น การวิเคราะห์ศักยภาพของที่ดินในลุ่มนํ้าแม่นํ้าชีเพื่อการวางแผนการใช้ที่ดิน จึงเป็น
แนวทางสําคัญในการบริหารจัดการพื้นที่ลุ่มนํ้า เพื่อการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับศักยภาพ
ของที่ดินและทรัพยากรที่มีอยู่ โดยการวิเคราะห์ปัญหาหลักๆ ของพื้นที่ลุ่มนํ้าสาขาที่เป็นพื้นที่นําร่อง
ของสถานภาพปัญหาอันได้แก่ การเสื่อมโทรมของของทรัพยากรดินและดินปัญหาต่างๆ ในลุ่มนํ้า
สาขาลํานํ้าชีตอนบน (0402) ลุ่มนํ้าสาขาลํานํ้าชีส่วนที่ 3 (0408) และลุ่มนํ้าสาขาลําพะเนียง (0411)
ซึ่งเป็นตัวแทนของปัญหาดินเสื่อมโทรม ดินตื้น ดินทราย และดินเค็ม เพื่อเป็นแนวในการจัดการ
ทรัพยากร และการจัดการดิน
พื้นที่ส่วนใหญ่ของลุ่มนํ้าสาขาลํานํ้าชีตอนบน (0402) อยู่ในจังหวัดชัยภูมิ พื้นที่บางส่วน
อยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ มีเนื้อที่ 2,550.80 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,594,250 ไร่ ลุ่มนํ้าสาขาลํานํ้าชีส่วนที่ 3 (0408)
อยู่ในจังหวัดขอนแก่น พื้นที่บางส่วนอยู่ในจังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ 3,276.24
ตารางกิโลเมตร หรือ 2,047,650 ไร่ และลุ่มนํ้าสาขาลําพะเนียง (0411) อยู่ในจังหวัดหนองบัวลําภู
พื้นที่บางส่วนอยู่ในจังหวัดเลย และจังหวัดอุดรธานี มีเนื้อที่ 1,890.42 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,181,513 ไร่
พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้ทําการเกษตร ดังนั้นควรมีการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ