Page 272 - การประเมินความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจในการผลิตพืชเพื่อวางแผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาของลุ่มน้ำหลัก : โตนเลสาป ปีการผลิต 2555/56
P. 272
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
4-19
หน่วยที่ดินที่ 44B มีประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน 2 ประเภท ได้แก่ มันสําปะหลังและ
ยูคาลิปตัส โดยยูคาลิปตัสมีชั้นความเหมาะสมทางเศรษฐกิจในระดับสูง (S1) ส่วนมันสําปะหลัง มีชั้น
ความเหมาะสมทางเศรษฐกิจในระดับปานกลาง (S2)
หน่วยที่ดินที่ 55B มีประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน 3 ประเภท ได้แก่ มันสําปะหลัง
อ้อยโรงงาน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ต้นฝน–ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปลายฝน ทั้ง 3 ประเภทมีชั้นความเหมาะสม
ทางเศรษฐกิจในระดับปานกลาง (S2)
ตารางที่ 4-7 ชั้นความเหมาะสมทางเศรษฐกิจของประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน (เขตนํ้าฝน) ในพื้นที่
ลุ่มนํ้าสาขาห้วยพรมโหด (1702) ปีการผลิต 2555/56
ประเภท หน่วยที่ดิน
การใช้ประโยชน์ที่ดิน 6 7 17hi 29B 31 31b 40B 44B 55B
ข้าวเจ้านาปีนาดํา (ขาวดอกมะลิ 105) S2 - - - - - - - -
ข้าวเจ้านาปีนาหว่าน (ขาวดอกมะลิ 105) - S2 S2 - - S3 - - -
มันสําปะหลัง - - - S2 - - - S2 S2
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ต้นฝน – ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปลายฝน - - - - S2 - - - S2
ยูคาลิปตัส - - - - - - S1 S1 -
อ้อยโรงงาน - - - - - - - - S2
หมายเหตุ : S1 = ชั้นความเหมาะสมทางเศรษฐกิจในระดับสูง
S2 = ชั้นความเหมาะสมทางเศรษฐกิจในระดับปานกลาง
S3 = ชั้นความเหมาะสมทางเศรษฐกิจในระดับเล็กน้อย
4.2.3) การวิเคราะห์และประเมินความเหมาะสมในเชิงเศรษฐกิจตามกลุ่มพืช
จากการวิเคราะห์ผลตอบแทนและประเมินความเหมาะสมในเชิงเศรษฐกิจของประเภทการ
ใช้ประโยชน์ที่ดินในแต่ละหน่วยที่ดิน หากนํามาวิเคราะห์เปรียบเทียบตามกลุ่มพืช พอสรุปได้ดังนี้
เขตนํ้าฝน
การทํานา มีการปลูกข้าวนาปีในหน่วยที่ดินที่ 6 7 17hi และ 31b โดยจะเป็นข้าวเจ้าทั้งหมด
ซึ่งเกษตรกรจะทําทั้งนาดําและนาหว่าน โดยเกษตรกรจะใช้พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 โดยข้าวเจ้านาปี ที่ปลูก
ในหน่วยที่ดินที่ 6 เกษตรกรจะทําเป็นนาดํา ได้รับผลผลิตเฉลี่ย 421.24 กิโลกรัมต่อไร่ ได้รับผลตอบแทน
เหนือต้นทุนผันแปรทั้งหมด 2,795.73 บาทต่อไร่ ส่วนข้าวเจ้านาปี ในหน่วยที่ดินที่ 7 17hi และ 31b
เกษตรกรทําเป็นนาหว่าน โดยหน่วยที่ดินที่ 7ได้รับผลผลิตเฉลี่ย 387.85 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าข้าวเจ้า
นาหว่านในหน่วยที่ดินที่ 17hi และ 31b ซึ่งได้รับผลผลิตเฉลี่ย 358.76 และ 354.80 กิโลกรัมต่อไร่