Page 106 - การประเมินความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจในการผลิตพืชเพื่อวางแผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาของลุ่มน้ำหลัก : โตนเลสาป ปีการผลิต 2555/56

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
2-76

พื้นที่เก็บเกี่ยว ผลผลิตรวม และผลผลิตเฉลี่ย โดยลดลงร้อยละ19.67 19.59 22.89 และ 4.11 ตามลําดับ

พันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรนิยมปลูก คือ CP888 และ 919

ภาวะการตลาด จากข้อมูลของสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร พบว่า ในปี

2553 ราคาของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรขายได้ คือ 8.13 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ในปี 2554 ราคา
ของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีแนวโน้มลดลงเป็น 7.63 บาทต่อกิโลกรัม และในปี 2555 ราคากลับมีแนวโน้ม

เพิ่มขึ้นเป็น 9.34 บาทต่อกิโลกรัม

มันสําปะหลัง มันสําปะหลังที่ปลูกในลุ่มนํ้าสาขา ในปีการผลิต 2554 พบว่า

มีพื้นที่ปลูก 727,663 ไร่ พื้นที่เก็บเกี่ยว 708,094 ไร่ ผลผลิตรวม 2,941,740 ตัน และผลผลิตเฉลี่ย 4,154
กิโลกรัมต่อไร่ ขณะที่ในปีการผลิต 2555 พบว่า สภาพการผลิตมันสําปะหลังมีแนวโน้มลดลงทั้งใน

เรื่องของพื้นที่ปลูก พื้นที่เก็บเกี่ยว ผลผลิตรวม และผลผลิตเฉลี่ย โดยลดลงร้อยละ 5.15 4.59 20.02 และ

16.17 ตามลําดับ พันธุ์มันสําปะหลังที่นิยมปลูก คือ ระยอง5 เกษตรศาสตร์ และห้วยบง60
ภาวะการตลาด จากข้อมูลของสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร พบว่า ในปี

การผลิต 2555 มันสําปะหลังที่เกษตรกรขายได้ราคา 2.09 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคามีแนวโน้มลดลง

จากปี 2554 ซึ่งขายได้ 2.68 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากจีนชะลอการนําเข้ามันเส้นใย
เพราะปัญหาฝุ่นมันเส้น ประกอบกับการดําเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสําปะหลังล่าช้าและเปิดจุด

รับจํานําได้น้อย ไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร

ยางพารา ในปีการผลิต 2553 ยางพาราที่ปลูกในลุ่มนํ้าสาขา มีพื้นที่ปลูก

712,759 ไร่ พื้นที่เก็บเกี่ยว576,368 ไร่ ผลผลิตรวม 150,904 ตัน และผลผลิตเฉลี่ย 262 กิโลกรัมต่อไร่
และในปีการผลิต 2554 และ 2555 พบว่า พื้นที่ปลูก พื้นที่เก็บเกี่ยว และผลผลิตรวมของยางพารามีแนวโน้ม

เพิ่มขึ้น โดยในปีการผลิต 2554 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.15 1.32 และ 1.00 จากปีการผลิต 2553 ตามลําดับ

และในปี 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.69 5.00 และ 4.77 จากปีการผลิต 2553 ตามลําดับ แต่ผลผลิตเฉลี่ยในปี

2554 และ 2555 มีแนวโน้มเล็กน้อยลดลงจากปี 2553 โดยลดลงร้อยละ 0.38 เท่ากัน พันธุ์ยางพาราที่เกษตรกร
นิยมปลูก คือ RRIM600

ภาวะการตลาด จากข้อมูลของสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร พบว่า ราคา

ยางพาราในปี 2553 เท่ากัน 103 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ในปี 2554 ราคายางพารามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
โดยราคายางพาราที่เกษตรกรขายได้เพิ่มขึ้นเป็น 124 บาทต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม ในปี 2555 ราคา

ยางพารากลับลดลง เนื่องจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่ซบเซา

รวมทั้งการเกิดสึนามิในญี่ปุ่น เมื่อเดือนมีนาคม และอุทกภัยครั้งใหญ่ของไทยเมื่อปี 2554 จึงส่งผลให้
ราคาที่เกษตรกรขายได้ลดลงเหลือ 87.15 บาทต่อกิโลกรัม