Page 72 - แนวทางการศึกษาดินตัวแทนหลักสำหรับพัฒนาการเกษตรของประเทศไทย

- 65 -

ดินร่วนปนทรายละเอียดมาก (very fine sandy loam) มีอนุภาคขนาดทราย
ละเอียดมากอย่างน้อยร้อยละ 30 และมีอนุภาคขนาดทรายหยาบมาก ทรายหยาบ และทรายหยาบปานกลาง

รวมกันน้อยกว่าร้อยละ 15 หรือมีอนุภาคขนาดทรายละเอียด และทรายละเอียดมาก รวมกันมากกว่าร้อยละ
40 โดยอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเป็นทรายละเอียดมาก และมีอนุภาคขนาดทรายหยาบมาก ทรายหยาบและทราย
หยาบปานกลางรวมกัน น้อยกว่าร้อยละ 15

4) ดินร่วน (loam) มีอนุภาคขนาดดินเหนียวร้อยละ 7-27 มีอนุภาคขนาดทรายแป้งร้อย
ละ 28-50 และมีอนุภาคขนาดทรายไม่เกินร้อยละ 52

5) ดินร่วนปนทรายแป้ง (silt loam) มีอนุภาคขนาดทรายแป้งอย่างน้อยร้อยละ 50 และ
มีอนุภาคขนาดดินเหนียวร้อยละ 12-27 หรือมีอนุภาคขนาดทรายแป้งร้อยละ 50-80 และมีอนุภาคขนาดดิน
เหนียว น้อยกว่าร้อยละ 12

6) ทรายแป้ง (silt) มีอนุภาคขนาดทรายแป้งอย่างน้อยร้อยละ 80 และมีอนุภาคขนาดดิน
เหนียวน้อยกว่าร้อยละ 12

7) ดินร่วนเหนียวปนทราย (sandy clay loam) มีอนุภาคขนาดดินเหนียวร้อยละ 20-35
มีอนุภาคขนาดทรายแป้ง น้อยกว่าร้อยละ 28 และมีอนุภาคขนาดทรายมากกว่าร้อยละ 45
8) ดินร่วนเหนียว (clay loam) มีอนุภาคขนาดดินเหนียวร้อยละ 27-40 และมีอนุภาค

ขนาดทรายมากกว่าร้อยละ 20-46
9) ดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง (silty clay loam) มีอนุภาคขนาดดินเหนียวร้อยละ 27-

40 และมีอนุภาคขนาดทรายไม่เกินร้อยละ 20
10) ดินเหนียวปนทราย (sandy clay) มีอนุภาคขนาดดินเหนียวอย่างน้อยร้อยละ 35

และมีอนุภาคขนาดทรายอย่างน้อยร้อยละ 45
11) ดินเหนียวปนทรายแป้ง (silty clay) มีอนุภาคขนาดดินเหนียวอย่างน้อยร้อยละ 40

และมีอนุภาคขนาดทรายแป้งอย่างน้อยร้อยละ 40
12) ดินเหนียว (clay) มีอนุภาคขนาดดินเหนียวอย่างน้อยร้อยละ 40 มีอนุภาคขนาดทราย
ไม่เกินร้อยละ 45 และมีอนุภาคขนาดทรายแป้ง น้อยกว่าร้อยละ 40

4. กลุ่มของชั้นเนื้อดิน (group of textural classes)

เนื่องจากการแบ่งชั้นเนื้อดินมีความละเอียดมาก ทําให้มีชั้นเนื้อดินต่างๆ มากมาย ในบางกรณี
อาจจะมีการเรียกชื่อเป็นกลุ่มของชั้นเนื้อดิน เพื่อความสะดวกโดยแบ่งออกเป็นดินทราย ดินร่วน ดินเหนียว
หรือเป็นดินเนื้อหยาบ (coarse-textured) ดินเนื้อหยาบปานกลาง (moderately coarse-textured) ดินเนื้อ
ปานกลาง (medium-textured) ดินเนื้อละเอียดปานกลาง (moderately fine-textured) และดินเนื้อ

ละเอียด (fine-textured) ก็ได้ ซึ่งมีลักษณะการแบ่งกลุ่มของชั้นเนื้อดินดังแสดงไว้ในตารางที่ 4-7
5. การทดสอบโดยวิธีสัมผัส (Feel Method)

การทดสอบโดยวิธีสัมผัสจะสามารถทําได้ผลอย่างดีใกล้เคียงกับความเป็นจริง จําเป็นต้องอาศัย
ประสบการณ์ของผู้ปฏิบัติงานด้านสํารวจ จําแนกดินเอง การฝึกจับเนื้อดินแล้วเปรียบเทียบกับผลการวิเคราะห์
ในห้องปฏิบัติการเป็นประจําจะช่วยเพิ่มความถูกต้องและความมั่นใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน และเพื่อความสะดวกใน

การทดสอบโดยวิธีสัมผัส ควรฝึกใช้มือสัมผัสดินเป็นมือที่ไม่ได้ใช้ในการบันทึกข้อมูล เพื่อจะไม่เสียเวลาในการ
ล้างและเช็ดมือบ่อยๆ การทดสอบโดยวิธีสัมผัสในแต่ละเนื้อดิน มีรายละเอียด ดังนี้