Page 26 - แนวทางการศึกษาดินตัวแทนหลักสำหรับพัฒนาการเกษตรของประเทศไทย
P. 26
- 19 -
ต่อมา สถิระ และคณะ (2547) ได้เปลี่ยนหน้าตัดดินตัวแทนของชุดดินกําแพงแสนจากเดิมในเขต
อําเภอเมือง เป็นหน้าตัดดินที่ SW-53/31 ซึ่งได้เก็บตัวอย่างภายในพื้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขต
กําแพงแสน อําเภอกําแพงแสน จังหวัดนครปฐม เพื่อใช้เป็นหน้าตัดดินตัวแทนสําหรับการอ้างอิง เนื่องจากเป็น
บริเวณที่อยู่ในเขตอําเภอกําแพงแสนและตรงตามแนวความคิดของการจัดตั้ง "ชุดดิน" ดังนั้น ในกรณีเช่นนี้จึง
ควรเลือกเก็บตัวอย่างชุดดินกําแพงแสน ในเขตอําเภอกําแพงแสน เพื่อให้ตรงตามข้อกําหนดของ “ชุดดิน” และ
มีปัจจัยสภาพแวดล้อมในการกําเนิดดินใกล้เคียงหรือคล้ายกับการจัดตั้งชุดดินกําแพงแสนมากที่สุด โดยใช้
ข้อมูลการแพร่กระจายของชุดดินกําแพงแสน จากแผนที่ดินมาตราส่วน 1:100,000 เป็นกรอบในการศึกษา
เบื้องต้น พร้อมทั้งกําหนดจุดศึกษาดินเบื้องต้นเฉพาะในเขตอําเภอกําแพงแสน
3.3 การตรวจสอบลักษณะและสมบัติของดินในสนาม
การตรวจสอบลักษณะและสมบัติของดินในสนาม เป็นการศึกษาลักษณะและสมบัติของชุดดินที่
ต้องการศึกษา จากจุดที่เป็นตัวแทนของชุดดินตัวแทนที่กําหนดไว้แล้ว ประมาณ 3-4 จุด เพื่อให้ได้ชุดดินตัว
แทนที่เหมาะสมที่สุด มีขั้นตอนและวิธีการ ดังนี้
1. ใช้แผนที่ภูมิประเทศ มาตราส่วน 1:50,000 หรือใช้แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศสีเชิงเลข
(Orthophoto Map) ที่ได้กําหนดจุดศึกษาตัวแทนไว้แล้ว ตามปกติช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมในการศึกษาเรื่อง
ดินและการเดินทางเข้าพื้นที่ จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่ดินไม่เปียกหรือแห้งมาก
เกินไป สะดวกในการเข้าปฏิบัติงาน ทั้งง่ายในการขุดหลุมดิน ศึกษาและเก็บตัวอย่างดิน
2. บันทึกสภาพแวดล้อมของพื้นที่ พร้อมทั้งศึกษาดินโดยขุดหลุมขนาดเล็ก (mini pit) ให้มีขนาด
50x50x50 เซนติเมตร แล้วเจาะดินด้วยสว่านเจาะดินจนถึงความลึก 2 เมตร หรือศึกษาจากหน้าตัดดินข้างทาง
ที่มีการเปิดดินไว้แล้ว (road cut) เพื่อศึกษาลักษณะและสมบัติของดินตัวแทน ทําคําบรรยายหน้าตัดดิน (soil
profile description) จําแนกดินให้ถึงระดับชุดดิน ตามระบบอนุกรมวิธานดิน
3. พิจารณาเปรียบเทียบ ตรวจสอบ ระหว่างปัจจัยสิ่งแวดล้อมในการกําเนิดดิน ลักษณะและสมบัติ
ดิน การจําแนกดิน และข้อมูลอื่นๆ กับแนวความคิดในการจัดตั้งชุดดินนั้นๆ ว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่
หากใช่ ก็สามารถกําหนดให้เป็นจุดตัวแทนเพื่อศึกษาดินได้ แต่หากไม่ใช่ บริเวณนี้ก็ไม่ควรกําหนดให้เป็นจุด
ตัวแทน
4. ในกรณีที่ข้อมูลบริเวณที่ศึกษามีความขัดแย้งกับเอกสารวิชาการการกําหนดลักษณะและสมบัติ
ของชุดดิน จําเป็นต้องมีการหาเหตุผลมาอธิบายถึงความขัดแย้งนั้นๆ โดยอาจเจาะสํารวจดิน ตรวจสอบเอกสาร
เพิ่มเติมหรือสอบถามจากนักสํารวจดินอาวุโส เพื่อหาข้อสรุป แต่ทั้งนี้ต้องให้ตรงตามข้อกําหนดของ “ชุดดิน”
5. หากบริเวณดังกล่าว เมื่อพิจารณาในขั้นต้นแล้ว ตรงตามแนวความคิดของ “ชุดดิน” สามารถใช้
เป็นจุดตัวแทนเพื่อศึกษาได้ ให้ติดต่อและประสานงานกับเจ้าของพื้นที่ก่อน เพื่อตรวจสอบประวัติการใช้ที่ดิน
การขออนุญาตเข้าพื้นที่ ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมในการศึกษา (ในบางพื้นที่อาจต้องรอการเก็บเกี่ยวผลผลิตให้
เรียบร้อยก่อน) แรงงานการขุดเจาะ การอํานวยความสะดวก และรายละเอียดอื่นๆ เพื่อเป็นข้อมูลเบื้องต้น
7. ศึกษาลักษณะและสมบัติของดินจนครบตามจุดที่กําหนดไว้แล้ว
8. วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และศึกษาข้อมูลลักษณะและสมบัติของดินในแต่ละบริเวณตามลําดับ
ร่วมกับข้อมูลจากเจ้าของพื้นที่ ความสะดวกในการเข้าเก็บตัวอย่างดิน เพื่อประกอบการตัดสินใจ เนื่องจาก
บริเวณจุดศึกษาเพื่อจัดทําหลุมหน้าตัดดิน (pit) ต้องเป็นพื้นที่ที่ตรงตามแนวความคิดของชุดดินที่ต้องการศึกษา
มีความเหมาะสมต่อการเข้าปฏิบัติงานและเจ้าของพื้นที่อนุญาต

