Page 96 - แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาคลองบำบัง
P. 96
3-30
การประเมินอัตราการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ลุ่มน้ าสาขา
การประเมินอัตราการชะล้างพังทลายของดิน เป็นวิธีการศึกษาและวิเคราะห์การสูญเสีย
หน้าดินในแต่ละปี การสูญเสียหน้าดินส่วนใหญ่เกิดจากการไหลบ่าของน้้าผิวดินและพัดพาดินไป
ตามกระแสน้้า การชะล้างพังทลายของดินก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ความอุดมสมบูรณ์ของดินลดลง
ปัญหาการตื้นเขินของแหล่งน้้า ถ้าเกิดการชะล้างพังทลายที่รุนแรงจะเป็นอันตรายต่อคน และสัตว์เลี้ยง
รวมทั้งสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนและพืชพรรณที่เพาะปลูก ปัจจัยที่มีผลต่อการชะล้างพังทลาย
ของดินจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพลมฟ้าอากาศ สภาพภูมิประเทศ ลักษณะดิน ลักษณะพืชพรรณ
หรือสิ่งปกคลุมดิน และลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดิน ปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วส่วนใหญ่จะเป็นไป
ตามสภาพธรรมชาติไม่สามารถควบคุมได้ แต่ลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เกิดจากการกระท้า
ของมนุษย์ สามารถควบคุมไม่ให้เกิดการชะล้างพังทลายที่เสียหายได้ ถ้ามีการจัดการด้านการอนุรักษ์ดิน
และน้้าที่เหมาะสม
ในพื้นที่ลุ่มน้้าสาขาคลองบ้าบังได้ประเมินอัตราการชะล้างพังทลายของดินโดยใช้
สมการการสูญเสียดินสากล (Universal Soil Loss Equation) ตามวิธีการของ Wischmeier และ Smith (1978)
โดยมีรูปสมการดังนี้
A = R K L S C P
ซึ่งมีรายละเอียดตัวแปรแต่ละตัวดังนี้ คือ
A เป็นค่าการสูญเสียดินต่อหน่วยของพื้นที่ ซึ่งได้จากการค้านวณโดยการคูณค่าปัจจัยต่างๆ
6 ปัจจัย ค่านี้เป็นการประเมินค่าเฉลี่ยรายปีของการชะล้างพังทลายของช่องว่างระหว่างร่องริ้ว (Interrill)
กับร่องริ้ว (rill) จากพายุฝน (rain storm) ส้าหรับพื้นที่ดอน (field sized upland area) ค่านี้โดยทั่วไปไม่รวม
การชะล้างพังทลายจากร่องลึก (gully) ริมฝั่งน้้า (stream bank) หรือการพังทลายจากลม แต่ค่า A นี้ จะรวม
ตะกอนดินที่ถูกพัดพามาก่อนที่จะถึงตอนล่างของล้าน้้า (downslope stream) หรืออ่างเก็บน้้า (reservoir)
R เป็นค่าที่รวมทั้งปัจจัยของน้้าฝนและการไหลบ่า (rainfall and runoff erosivity factor)
ซึ่งเป็นค่าเฉพาะแห่ง ตามปกติค่า R นี้ จะเป็นค่าแสดงความหมายถึงค่าเฉลี่ยรายปีต่อหน่วยดัชนี
การชะล้างพังทลาย (erosion index unit)
K เป็นค่าปัจจัยความคงทนต่อการถูกชะล้างพังทลายของดิน (soil erodibility factor)
เป็นค่าเฉพาะแต่ละชั้นของดิน (soil horizon)
L เป็นค่าปัจจัยความยาวของความลาดชัน (slope length factor)
S เป็นปัจจัยความชันของการลาดเท (slope steepness factor)
C เป็นค่าปัจจัยการจัดการพืช (crop management factor) เป็นค่าที่ไม่มีขนาดหรือหน่วย
ค่า C เป็นค่าที่แสดงความหมายถึงอัตราส่วนของการสูญเสียดิน ระหว่างพื้นที่ที่มีการปลูกพืชชนิดใด
กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน