Page 58 - แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาคลองปะเหลียน
P. 58
3-9
- หน่วยที่ดินที่ 39gm เป็นดินที่ได้รับอิทธิพลจากการแช่ขังของน้้า สภาพพื้นที่
ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ มีเนื้อที่ 1,883 ไร่ หรือร้อยละ 0.29 ของพื้นที่ลุ่มน้้าสาขา
- หน่วยที่ดินที่ 39gmb เป็นดินที่ได้รับอิทธิพลจากการแช่ขังของน้้า สภาพพื้นที่
ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ มีการปั้นคันนาเพื่อท้าการปลูกข้าว มีเนื้อที่ 1,367 ไร่ หรือร้อยละ 0.21 ของ
พื้นที่ลุ่มน้้าสาขา
(5) กลุ่มชุดดินที่เป็นดินทรายที่มีชั้นดานอินทรีย์ภายในความลึก 100 เซนติเมตร
เป็นกลุ่มดินที่พบบริเวณหาดทรายเก่าหรือสันทรายชายทะเลเกิดจากการตะกอนทรายชายทะเล
บนพื้นที่ดอนที่มีสภาพพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ เป็นดินลึก มีการระบายน้้าดีปานกลาง
เนื้อดินเป็นทรายจัด สีดินบนเป็นสีเทาแก่ ใต้ลงไปเป็นชั้นทรายสีขาว ดินล่างเป็นชั้นสะสมของ
พวกอินทรียวัตถุ เหล็กหรือฮิวมัส สีน้้าตาล สีแดง ชั้นเหล่านี้มีการอัดตัวแน่นเป็นชั้นดาน มีความอุดมสมบูรณ์
ตามธรรมชาติต่้า ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึงเป็นกรดปานกลาง มีค่าความเป็นกรดเป็นด่าง
ประมาณ 5.0-6.0 ปัญหาส้าคัญในการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้แก่ เนื้อดินค่อนข้างเป็นทรายจัด และดินมี
ความอุดมสมบูรณ์ต่้า พืชมักแสดงอาการขาดธาตุอาหารให้เห็น ในช่วงฤดูแล้งชั้นดานจะแห้งและแข็งมาก
รากพืชไม่สามารถไชชอนผ่านไปได้ ส่วนในช่วงฤดูฝนจะเปียกแฉะและมีน้้าแช่ขัง ปัจจุบันบริเวณ
ดังกล่าวเป็นป่าเสม็ด ป่าชายหาด ป่าละเมาะ บางแห่งใช้ปลูกไม้ผลและไม้ยืนต้น แบ่งเป็นหน่วยที่ดินต่างๆ คือ
- หน่วยที่ดินที่ 42 สภาพพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ มีเนื้อที่ 1,177 ไร่
หรือร้อยละ 0.18 ของพื้นที่ลุ่มน้้าสาขา
- หน่วยที่ดินที่ 42b สภาพพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ มีการปั้นคันนา
เพื่อปลูกข้าว มีเนื้อที่ 288 ไร่ หรือร้อยละ 0.04 ของพื้นที่ลุ่มน้้าสาขา
(6) กลุ่มชุดดินที่เป็นดินทรายลึกมาก เป็นกลุ่มดินที่พบในเขตฝนตกชุก หรือบริเวณ
ชายฝั่งทะเล เกิดจากการสลายตัวผุพังอยู่กับที่ หรือถูกเคลื่อนย้ายมาในระยะทางไม่ไกลนักของหินเนื้อหยาบ
หรือจากตะกอนทรายชายทะเล บนพื้นที่ดอน บริเวณหาดทราย สันทรายชายทะเลหรือบริเวณ
ที่ลาดเชิงเขา มีสภาพพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ เป็นดินลึก มีการระบายน้้า
ค่อนข้างมากเกินไป เนื้อดินเป็นดินทรายปนดินร่วนหรือดินทราย ดินมีสีเทา สีน้้าตาลอ่อน หรือเหลือง
ถ้าพบบริเวณสันทรายชายทะเลจะมีเปลือกหอยปะปนอยู่ในเนื้อดิน ดินมีความอุดมสมบูรณ์
ตามธรรมชาติต่้า ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกลาง มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 5.5-7.0
แต่ถ้ามีเปลือกหอยปะปนจะมีปฏิกิริยาเป็นด่างปานกลาง ปัญหาส้าคัญในการใช้ประโยชน์ที่ดิน ได้แก่
เนื้อดินเป็นทรายจัด ท้าให้มีความสามารถในการอุ้มน้้าได้น้อย พืชจะแสดงอาการขาดน้้าเมื่อฝนทิ้งช่วง
นอกจากนี้ดินยังมีความอุดมสมบูรณ์ต่้า ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวใช้ปลูกไม้ยืนต้น และไม้ผล บางแห่ง
เป็นป่าละเมาะหรือทุ่งหญ้าธรรมชาติแบ่งเป็นหน่วยที่ดินต่างๆ คือ
แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้้าสาขาคลองปะเหลียน