Page 114 - แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาคลองปะเหลียน
P. 114
3-46
เกิดปัญหาเกี่ยวกับการชะล้างพังทลายขึ้น ทางระบายน้้านี้อาจสร้างขึ้นใหม่ หรือปรับปรุงจากร่องน้้า
ธรรมชาติก็ได้
(2.8) บ่อน้้าในไร่นา (Farm pond) ช่วยในการเก็บกักน้้าที่ไหลบ่ามาตามหน้าดิน
รวมทั้งตะกอนที่ถูกชะล้างไว้เป็นช่วงๆ ไม่ให้เกิดผลเสียหายรุนแรงแก่พื้นที่เพาะปลูก ตลอดจนแหล่งน้้า
อื่นๆ นอกจากนั้นยังเป็นการเก็บกักน้้าไว้ในช่วงที่จ้าเป็นอีกด้วย
2) พื้นที่ดินตื้นและที่ดินหินโผล่ มีเนื้อที่ 103,882 ไร่ หรือร้อยละ 15.88 ของพื้นที่ลุ่มน้้า
สาขา เกิดจากการสลายตัวของหินกรวดเนื้อละเอียด ที่ส่วนใหญ่เป็นพวกหินตะกอนเนื้อหยาบ คือ หินทราย
หินกรวดมน แตกกระจัดกระจายร่วงหล่นออกมาทับถมเกะกะอยู่บริเวณเชิงเขา หรือเป็นผลจาก
กระบวนการทางดินที่ท้าให้เกิดการสะสมปูนมาร์ลหรือศิลาแลงในดิน แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
(1) ดินตื้นที่มีการระบายน้้าเลว พบในบริเวณที่ราบต่้าที่มีน้้าขังในช่วงฤดูฝน 3-46
แสดงว่าดินมีการระบายน้้าค่อนข้างเลว ขุดลงไปจากผิวดินที่ระดับความลึก 25-50 เซนติเมตร มีกรวด
หรือลูกรังปนอยู่ในเนื้อดินมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร ถ้าขุดลึกลงมาถัดไปจะเป็นชั้นดินที่มี
ศิลาแลงอ่อนปนทับอยู่บนชั้นหินผุ
(2) ดินตื้นปนลูกรังหรือกรวดที่มีการระบายน้้าดี และที่ดินหินโผล่ พบตามพื้นที่
ลอนลาดหรือเนินเขา ตั้งแต่บริเวณผิวดินลงไปมีลูกรังหรือหินกรวดมนปะปนอยู่ในดินมากกว่า 35
เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร และดินประเภทนี้บางแห่งก็มีก้อนลูกรังหรือศิลาแดงโผล่กระจัดกระจาย
ทั่วไปที่บริเวณผิวดิน
(3) ดินตื้นปนหินมีการระบายน้้าดี พบตามพื้นที่ลอนลาดหรือบริเวณเนินภูเขา
ดินประเภทนี้เมื่อขุดลงไปที่ความลึกประมาณ 30-50 เซนติเมตร จะพบเศษหินแตกชิ้นน้อยใหญ่ปะปน
อยู่ในเนื้อดินมากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์โดยปริมาตร บางแห่งพบหินผุหรือหินแข็งปะปนอยู่กับเศษหิน
บางแห่งมีก้อนหินและหินโผล่กระจัดกระจายทั่วไปตามหน้าดิน
(4) ดินตื้นปนปูนมาร์ล พบตามพื้นที่ลาดถึงพื้นที่ลอนลาด หรือบริเวณที่ลาดเชิงเขา
เมื่อขุดลงไปในระดับความลึกที่ 20-50 เซนติเมตร จะพบสารประกอบจ้าพวกแคลเซียมหรือ
แมกนิเซียมคาร์บอเนตปนอยู่ ท้าให้ดินประเภทนี้จัดว่าเป็นดินที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง แต่มีข้อเสียคือ
มีปฏิกิริยาเป็นด่าง เป็นข้อจ้ากัดต่อพืชบางชนิดที่ไวต่อความเป็นด่าง เช่น สับปะรด
ปัญหาดินตื้น เป็นดินที่ไม่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกเพราะ มีปริมาณชิ้นส่วน
หยาบปนอยู่ในดินมากท้าให้มีเนื้อดินน้อย มีธาตุอาหารน้อย ไม่อุ้มน้้า ชั้นล่างของดินชนิดนี้จะแน่นทึบ
รากพืชชอนไชไปได้ยาก พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้อย่างปกติควรมีการปรับปรุงระดับ
ความอุดมสมบูรณ์ของดิน
3) พื้นที่จากสภาพการใช้ประโยชน์ที่ดิน ที่เป็นไม้พุ่มและทุ่งหญ้าตามธรรมชาติ
มีเนื้อที่ 10,625 ไร่ ถ้าเป็นที่สาธารณประโยชน์ ควรปรับปรุงให้เป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ เพื่อเกษตรกร
กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน