Page 156 - แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำบางนรา
P. 156

3-88





                                พื้นที่ลุมน้ําชั้นที่ 3 เปนพื้นที่ที่สามารถใชประโยชนไดทั้งการทําไม เหมืองแร

                  และการปลูกพืชกสิกรรมประเภทไมยืนตน

                               พื้นที่ลุมน้ําชั้นที่ 4 โดยสภาพปาของลุมน้ําชั้นนี้ไดถูกบุกรุกแผวถางเปนที่ใชประโยชน
                  เพื่อกิจการพืชไรเปนสวนใหญ

                                พื้นที่ลุมน้ําชั้นที่ 5 พื้นที่นี้โดยทั่วไปเปนที่ราบหรือที่ลุมหรือเนินลาดเอียงเล็กนอย
                  และสวนใหญปาไมไดถูกแผวถางเพื่อประโยชนดานเกษตรกรรมโดยเฉพาะการทํานาและกิจการอื่นไปแลว


                        3.3.2  กฎหมายที่เกี่ยวของกับทรัพยากรดิน
                             กฎหมายดานทรัพยากรดินเปนกฎหมายที่เกี่ยวของทั้งดานสิทธิ์ในที่ดิน การจัดที่ดิน

                  การใชที่ดิน รวมถึงการอนุรักษดินและน้ําไดแก
                             1)  ประมวลกฎหมายที่ดิน 2497 เปนกฎหมายที่เกี่ยวของกับสิทธิ์ในที่ดิน โดยวางหลักเกณฑ

                  เกี่ยวกับการขอเอกสารแสดงการครอบครองหรือสิทธิในที่ดินรวมทั้งหลักเกณฑในการออกเอกสาร

                  ดังกลาว เชน โฉนดและหนังสือรับรองการทําประโยชนประมวลกฎหมายที่ดินใหอํานาจอธิบดีกรมที่ดิน
                  หรือผูที่รัฐมนตรีวาการกระทรวงมหาดไทยมอบหมายใหเปนผูดูแลที่ดินของรัฐที่มิไดอยูในความดูแล

                  ของหนวยงานใดหนวยงานหนึ่งโดยเฉพาะ เชน ที่รกรางวางเปลา ที่ภูเขา ซึ่งการเขาครอบครอง
                  หรือเขาทําประโยชนตองไดรับอนุญาตจากอธิบดีกรมที่ดินหรือผูที่ไดรับมอบหมายเสียกอน นอกจากนี้

                  ยังไดกําหนดบทลงโทษผูฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย
                          2)  พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พุทธศักราช 2518 แกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)

                  พุทธศักราช 2519 และแกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่3) พุทธศักราช 2532 เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติ

                  ฉบับนี้คือประเทศไทยเปนประเทศเกษตรกรรม ประชากรสวนใหญมีอาชีพในการเกษตร ที่ดินจึงเปน

                  ปจจัยสําคัญและเปนรากฐานเบื้องตนของการผลิตทางเกษตรกรรม แตปจจุบันปรากฏวาเกษตรกร

                  กําลังประสบความเดือดรอนเนื่องจากตองสูญเสียสิทธิ์ในที่ดินและกลายเปนผูเชาที่ดิน ตองเสียคาเชาที่ดิน
                  ในอัตราสูงเกินสมควร ที่ดินขาดการบํารุงรักษาจึงทําใหอัตราผลิตทางเกษตรกรรมอยูในระดับต่ําเกษตรกร

                  ไมไดรับความเปนธรรมและเสียเปรียบจากระบบการเชาที่ดินและการจําหนายผลิตผลตลอดมา ซึ่งสงผล

                  ใหเกิดภาวะความยุงยากทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม การปกครองและการเมืองของประเทศเปนอยางมาก
                  จึงเปนความจําเปนอยางยิ่งที่รัฐจะตองดําเนินการแกไขปญหาดังกลาวโดยดวนที่สุด โดยวิธีการปฏิรูปที่ดิน

                  เพื่อชวยใหเกษตรกรมีที่ดินทํากินและใหการใชที่ดินเกิดประโยชนมากที่สุดพรอมกับการจัดระบบ

                  การผลิตและจําหนายผลิตผลเกษตรกรรมเพื่อใหความเปนธรรมแกเกษตรกร ทั้งนี้เพื่อเปนการสนอง
                  แนวนโยบายแหงรัฐในการลดความเหลื่อมล้ําในฐานะของบุคคลในทางเศรษฐกิจและสังคมตามที่ได

                  กําหนดไวในรัฐธรรมนูญ จึงจําเปนตองตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้นและกฎหมายฉบับนี้ยังไดกําหนดให

                  เกษตรกรผูที่ไดรับสิทธิ์ในที่ดินไมสามารถแบงแยกหรือโอนใหผูอื่นได ยกเวนเปนมรดกตกทอดแกทายาท






                                                                        กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน
   151   152   153   154   155   156   157   158   159   160   161