Page 87 - แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาแม่น้ำโกลก
P. 87
3-30
ชนิดใดชนิดหนึ่งปกคลุมอยูกับพื้นที่ที่ถูกไถพรวนปราศจากพืชคลุมดิน ซึ่งใชในการหาคาความคงทน
ตอการถูกชะลางพังทลายของดิน
P เปนคาปจจัยการปฏิบัติเพื่อปองกันการชะลางพังทลาย (conservation practice)
เปนคาที่ไมมีขนาดหรือหนวยคา P เปนคาที่แสดงความหมายถึงอัตราสวนระหวางการสูญเสียดินจากพื้นที่
ที่มีการอนุรักษแบบตาง ๆ เชน ทําแนวคันดิน (contouring) การปลูกพืชเปนแถบ (strip cropping) หรือ
การทําขั้นบันได (terracing) กับการไถพรวนเพาะปลูกขึ้นลงตามความลาดเท
การประเมินคาปจจัยตาง ๆ ที่เกี่ยวของในสมการการสูญเสียดินสากล มีดังตอไปนี้
ในการคํานวณคาปจจัยความยาวและความลาดชันของพื้นที่ (LS) คํานวณตามชั้นความลาดชัน
ของหนวยที่ดิน ซึ่งจากเอกสารอางอิงของกรมพัฒนาที่ดิน (2545) ไดอธิบายที่มาของ คาตัวแปรตางๆ ดังนี้
L = (λ / 22.13) m
L คือ คาปจจัยความยาวของความลาดเท ในสมการการสูญเสียดินสากล
λ คือ ระยะทางตามแนวราบของพื้นที่ลาดชัน นับจากจุดเริ่มมีน้ําไหลเออผิวดิน
ถึงจุดที่ความลาดชันเปลี่ยนลดลงจนเกิดการทับถมของตะกอน หรือจุดที่มีการรวมตัวของน้ําเปนรอง
มีหนวยเปนเมตร ซึ่งควรมีระยะทางไมเกิน 400 ฟุต (ประมาณ 120 เมตร) หรือถาพื้นที่นั้นใชรถไถพรวน
เปนรองยาว คานี้อาจยาวไดถึง 1,000 ฟุต (ประมาณ 300 เมตร)
22.13 คือ ความยาวของแปลงทดลองมาตรฐาน หนวยเปนเมตร
m คือ ตัวเลขยกกําลังซึ่งผันแปรตามความลาดชัน มีความสัมพันธกับสัดสวนระหวาง
การชะลางพังทลายแบบรองริ้ว (rill erosion) ซึ่งเกิดจากการกระทําของน้ําไหลบากับการชะลาง
พังทลายระหวางรองริ้ว (interrill erosion) ซึ่งเกิดจากการกระทําของเม็ดฝนบนพื้นที่ลาดชันสูง คา m
จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากการชะลางพังทลายแบบรองริ้วมีมากกวาการชะลางพังทลายระหวางรองริ้ว
ในทางกลับกันพื้นที่ลาดชันนอยคา m จะลดลง เนื่องจากการชะลางพังทลายแบบรองริ้ว มีนอยกวา
การชะลางพังทลายระหวางรองริ้ว
ความลาดเท (λ)
ความลาดเท หรือ คา λ เพื่อใชในสมการคํานวณคาปจจัยความยาวของความลาดเท (L) ขางตน
มีการนําขอมูลจากแหลงตางๆ มาใช และศึกษาเปรียบเทียบคาความยาวของความลาดเทที่คํานวณได เพื่อเลือก
แหลงขอมูลที่มีความถูกตองเหมาะสมสําหรับคํานวณคาการสูญเสียดินมากที่สุด (กรมพัฒนาที่ดิน, 2545)
ความชัน (Slope gradient)
จากเอกสารของ กรมพัฒนาที่ดิน (2545) อธิบายเรื่องความชัน ไวดังนี้
กองนโยบายและแผนการใชที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน