Page 78 - รายงานสภาพการใช้ที่ดินและการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. 2554
P. 78
63
อําเภอสนม อําเภอโนนนารายณ์ อําเภอสําโรงทาบ และตอนบนของอําเภอเมืองสุรินทร์ และ
เปลี ยนแปลงจากพื<นที ปลูกพืชไร่อื น ๆ ในปี พ.ศ. 2549 อีก 37,514 ไร่ พบมากในบริเวณตอนล่างของ
จังหวัด ในบริเวณอําเภอพนมดงรัก อําเภอกาบเชิง อําเภอสังขะ และอําเภอบัวเชด (รายละเอียดดัง
ตารางที 7 และภาพที 44) ในขณะเดียวกันพบว่า พื<นที ปลูกอ้อยในปี พ.ศ. 2549 ได้เปลี ยนแปลงไปเป็น
การใช้ที ดินประเภทอื น ๆ ในปี พ.ศ. 2554 เช่นเดียวกัน โดยเปลี ยนเป็นพื<นที ปลูกยางพารามากที สุด
4,310 ไร่ และรองลงมา ได้แก่ พื<นที ปลูกยูคาลิปตัส 2,175 ไร่ และพื<นที ปลูกมันสําปะหลังอีก 1,464 ไร่
(รายละเอียดดังตารางที 7 และภาพที 45)
(4) มันสําปะหลัง มีเนื<อที เพิ มขึ<น 55,060 ไร่ หรือเพิ มขึ<นร้อยละ 128.76 ของเนื<อที
เดิม จาก 42,763 ไร่ ในปี พ.ศ. 2549 เป็น 97,823 ไร่ ในปี พ.ศ. 2554 (รายละเอียดดังตารางที 6) ซึ งมีพื<นที
ปลูกเดิมจาก ปี พ.ศ. 2549 คงเหลืออยู่ 18,047 ไร่ และเพิ มขึ<นโดยเปลี ยนแปลงมาจากพื<นที ปลูกพืชไร่อื นๆ
ในปี พ.ศ. 2549 ถึง 41,379 ไร่ และนาข้าว 14,153 ไร่ ซึ งพบมากในบริเวณตอนล่างของจังหวัด ในบริเวณ
อําเภอพนมดงรัก อําเภอกาบเชิง อําเภอสังขะ และอําเภอบัวเชด และบางส่วนของอําเภอท่าตูม เมื อนําไป
วิเคราะห์กับข้อมูลกลุ่มชุดดิน พบว่าพื<นนาข้าวในปี พ.ศ. 2549 ที เปลี ยนไปเป็นพื<นที ปลูกมันสําปะหลังใน
ปี พ.ศ. 2554 ส่วนใหญ่เป็นพื<นที นาข้าวในดินดอน หรือนาดอน โดยเฉพาะในกลุ่มชุดดินที 40 และ 41 ซึ ง
มีเนื<อดินเป็นดินทราย และการระบายนํ<าค่อนข้างดี ทําให้ผลผลิตข้าวไม่ดีเท่าที ควร เกษตรกรจึงเปลี ยนการ
ใช้ที ดินมาปลูกมันสําปะหลังทดแทน นอกจากนี<ยังพบว่าเปลี ยนแปลงจากมาพื<นที ปลูกยูคาลิปตัสอีก
10,937 ไร่ ซึ งพบมากบริเวณอําเภอพนมดงรัก อําเภอกาบเชิง อําเภอปราสาท อําเภอสังขะ อําเภอท่าตูม และ
อําเภอรัตนบุรี (รายละเอียดดังตารางที 7 และภาพที 46) ในขณะเดียวกันพบว่าพื<นที ปลูกมันสําปะหลังใน
ปี พ.ศ. 2549 มีการเปลี ยนแปลงประเภทการใช้ที ดินเป็นประเภทอื น ๆ ได้แก่ พื<นที ปลูกยางพาราใน
ปี พ.ศ. 2554 รวมเนื<อที 14,313 ไร่ และรองลงมา ได้แก่ เป็นพื<นที ปลูกอ้อยจํานวน 5,646 ไร่ ซึ งพบมาก
บริเวณอําเภอพนมดงรัก อําเภอกาบเชิง อําเภอปราสาท อําเภอสังขะ (รายละเอียดดังตารางที 7 และภาพที 47)
(5) ไม้ยืนต้นอื นๆ ได้แก่ ไม้ยืนผสม ปาล์มนํ<ามัน สัก สะเดา สนประดิพัทธ์ ประดู่
หม่อน ไผ่ หมาก กฤษณา และตะกู มีเนื<อที เพิ มขึ<น 1,263 ไร่ หรือเพิ มขึ<นร้อยละ 69.43 ของเนื<อที เดิม จาก
1,824 ไร่ ในปี พ.ศ. 2549 เป็น 3,087 ไร่ ในปี พ.ศ. 2554 (รายละเอียดดังตารางที 6) ซึ งมีพื<นที ปลูกเดิมจาก
ปี พ.ศ. 2549 คงเหลือ1,095ไร่ และเพิ มขึ<นมาจากพื<นที ปลูกพืชไร่อื น ๆ ในปี พ.ศ. 2549 มีเนื<อที 1,308 ไร่
พบมากในอําเภอบัวเชด รองลงมาได้แก่เปลี ยนแปลงจากพื<นที นาข้าวจํานวน 336 ไร่ และพื<นที เบ็ดเตล็ด
128 ไร่ โดยเปลี ยนแปลงไปปลูกไม้ยืนต้น เช่น หม่อน ตะกู สัก และกฤษณา (รายละเอียดดังตารางที 7)
แต่ในขณะเดียวกันพบว่าพื<นที ปลูกไม้ยืนต้น ในปี พ.ศ. 2549 ได้เปลี ยนแปลงประเภทการใช้ที ดินไปเป็น
ประเภทอื น ๆ ในปี พ.ศ. 2553 เพียงเล็กน้อย เปลี ยนแปลงไปเป็ นพื<นที ปลูกยูคาลิปตัส อ้อย
ยางพารา และมันสําปะหลัง เป็นต้น รวมเนื<อที 630 ไร่