Page 44 - รายงานสภาพการใช้ที่ดินและการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. 2554
P. 44
29
(3) อ้อย (สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์, 2554ก) ในปี การเพาะปลูก
2553/2554 มีพื<นที เพาะปลูก 54,178 ไร่ มีผลผลิตโดยรวม 394,358 ตัน ผลผลิตเฉลี ยต่อพื<นที เก็บเกี ยว
8,214 กิโลกรัมต่อไร่ อําเภอที มีการเพาะปลูกมากได้แก่ อําเภอบัวเชด และอําเภอกาบเชิง ซึ งอยู่ใน
บริเวณใกล้เคียงกับที ตั<งของโรงงานนํ<าตาลสุรินทร์ ในอําเภอปราสาท
(4) ปอแก้ว เป็นปอชนิดหนึ งที เกษตรกรนิยมปลูก เนื องจากปอแก้วมีความ
ทนทานต่อความแห้งแล้ง และขึ<นในสภาพดินไร่ทั วไปได้ดี เป็นพืชที มีความเสี ยงในการลงทุนน้อย
ที สุด พันธุ์ปอแก้วปลูกกันมาก ได้แก่ พันธุ์โนนสูง 2 ส่วนช่วงเวลาที เพาะปลูกเริ มต้นประมาณเดือน
เมษายน-สิงหาคม ผลผลิตที ได้จะออกสู่ตลาดช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม (ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์, 2551)
ในปีการเพาะปลูก 2553/2554 มีพื<นที เพาะปลูก 703 ไร่ มีผลผลิตโดยรวม 192 ตัน ผลผลิตเฉลี ยต่อ
พื<นที เก็บเกี ยว 273 กิโลกรัมต่อไร่ อําเภอที มีการเพาะปลูกมากได้แก่ อําเภอโนนนารายณ์
และอําเภอรัตนบุรี (สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์, 2554ก)
(4) ยางพารา (สํานักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์, 2554ก) ในปีการเพาะปลูก
2553/2554 จังหวัดสุรินทร์มีพื<นที ปลูกยางพาราทั<งหมด 134,246 ไร่ ที กรีดได้ทั<งสิ<น 32,930 ไร่ มีผลผลิตรวม
8,179 ตัน และมีผลผลิตเฉลี ย 248 กิโลกรัมต่อไร่ พบมากบริเวณอําเภอสังขะ พนมดงรัก และอําเภอบัวเชด
(5) ด้านปศุสัตว์ มีผลผลิตที สําคัญ ได้แก่ โค สุกร และกระบือ จากรายงานของ
กรมปศุสัตว์ (2554) ในจังหวัดสุรินทร์มีจํานวนเกษตรกรผู้เลี<ยงสัตว์จํานวน 122,419 ครัวเรือน และ
พบว่าพื<นที ที มีจํานวนครัวเรือนเกษตรกรผู้เลี<ยงสัตว์มาก ได้แก่ อําเภอเมืองสุรินทร์ อําเภอปราสาท
และอําเภอศรีขรภูมิ
(6) หม่อนไหม (ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์, 2551) จังหวัดสุรินทร์มีชื อเสียงด้านการ
เลี<ยงไหม และทอผ้าไหมมานาน การปลูกหม่อนไหมในจังหวัดสุรินทร์ส่วนใหญ่จะปลูกหม่อน เลี<ยง
ไหมเพื อใช้ในครัวเรือนและจําหน่ายเป็นรายได้เสริมแก่ครัวเรือน เกษตรกรจะเลี<ยงไหมเพื อจําหน่าย
เส้นไหมซึ งมีจํานวนทั<งหมด 26,007 ครัวเรือน การปลูกหม่อนเลี<ยงไหมในจังหวัดสุรินทร์ มีแนวโน้ม
ลดลง สาเหตุเพราะแปลงหม่อนของเกษตรกรมักปลูกอยู่ใกล้บ้านเรือน และใกล้กับถนนเมื อบ้านเมือง
เปลี ยนแปลงไป เกษตรกรส่วนใหญ่จะใช้แปลงหม่อนปลูกสร้างบ้านเรือนหรือขายไป และเกษตรกร
หันไปปลูกพืชอื นที ให้ผลตอบแทนที ดีกว่า และขั<นตอนการผลิตไม่ยุ่งยากเหมือนกับการปลูกหม่อน
เลี<ยงไหม