Page 641 - รายงานการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักตามกลุ่มชุดดิน เล่มที่ 1 ดินบนพื้นที่ราบต่ำ
P. 641
627
3. ลักษณะของกลุมชุดดินและของชุดดินในกลุมชุดดินที่ 61
ลักษณะและคุณสมบัติตางๆ ของดิน เชน เนื้อดิน สีดิน ความลึกของดิน ปฏิกิริยาของดิน ตลอดจน
ความอุดมสมบูรณตามธรรมชาติไมแนนอนขึ้นอยูกับหินที่เปนวัตถุตนกําเนิดดินบริเวณนั้นๆ แตสวนใหญ
มักมีเศษหิน กอนหิน และหินพื้นโผลกระจัดกระจายที่ผิวดิน
4. การประเมินความเหมาะสมสําหรับการปลูกพืชตางๆ
ความเหมาะสมหรือศักยภาพของกลุมชุดดินนี้ในการเพาะปลูกพืช แตกตางกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยูกับ
ความลึกของดิน เนื้อดิน สภาพพื้นที่และความลาดเท ดังนั้นในการประเมินความเหมาะสมของดิน จึงใชชั้น
ความลาดเทของพื้นที่เปนหลัก เพราะมีความสัมพันธกับความลึกของดิน การชะลางพังทลายและระดับ
ความชื้นในดิน
5. ปญหาและขอจํากัดในการปลูกพืช
5.1 การชะลางพังทลายของดิน เนื่องจากกลุมชุดดินนี้พบในสภาพพื้นที่ซึ่งมีความลาดชันสูงและ
ดินตื้น หากไมมีการอนุรักษดินและน้ําที่ดี จะเกิดการชะลางพังทลายในระดับปานกลางถึงรุนแรง
5.2 ดินตื้นและมีความอุดมสมบูรณต่ํา เมื่อหนาดินถูกชะลางพังทลายออกไปมาก หินที่เปนวัตถุ
ตนกําเนิดดินจึงโผลขึ้นมาที่ผิวดิน หรือพบภายในความลึก 50 ซม.จากผิวดิน การสูญเสียหนาดินทําให
ความอุดมสมบูรณตามธรรมชาติลดลงไป
5.3 ขาดแคลนน้ําในการเพาะปลูก กลุมชุดดินนี้อยูในพื้นที่สูงและมีความลาดเทสูง น้ําฝนจึงไหล
บาลงสูที่ต่ําอยางรวดเร็ว มีโอกาสซึมลงไปสะสมในสวนของน้ําใตดินนอย ดินจึงแหงเร็วเปนเหตุใหพืชขาด
น้ํา
6. การจัดการเพื่อใหเหมาะสมในการปลูกพืช
ในกรณีที่จะนํากลุมชุดดินที่ 61 โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งมีความลาดเทนอยกวา 21 เปอรเซ็นต และดินมี
ความลึกกวา 50 ซม.มาใชในการเพาะปลูก ควรดําเนินการดังนี้
6.1 การอนุรักษดินและน้ํา มีความจําเปนอยางยิ่ง เนื่องจากการเพาะปลูกโดยไมมีการอนุรักษดิน
และน้ําที่เหมาะสม จะเกิดการชะลางพังทลายของดินในระดับรุนแรงปานกลางถึงรุนแรง สําหรับการอนุรักษ
ดินและน้ําในพื้นที่ซึ่งมีสภาพเชนนี้ควรใชทั้งมาตรการดานพืช (ดานการเกษตร) และมาตรการดานวิศวกรรม
ควบคูกันไปดังนี้ 1) มาตรการดานพืชหรือดานการเกษตร มีหลายอยาง เชน การใชปุยพืชสดและพืชคลุม
ดิน การใชเศษพืชคลุมดิน การเตรียมดินระบบอนุรักษ การไถพรวนและปลูกพืชตามแนวระดับ การใสปุย
และปรับปรุงสมบัติของดิน และการใชที่ดินแบบวนเกษตร และ 2) มาตรการทางวิศวกรรม ที่ควรนํามา
ปฏิบัติ ไดแก ทําคูรับน้ําขอบเขา ขั้นบันไดดิน และการทําบอดักตะกอน เปนตน

