Page 152 - รายงานการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักตามกลุ่มชุดดิน เล่มที่ 1 ดินบนพื้นที่ราบต่ำ
P. 152

138



                  5. ปญหาและขอจํากัดในการปลูกพืช

                          5.1 การชะลางพังทลายของดิน  เกิดขึ้นในระดับปานกลางถึงคอนขางสูง เนื่องจากสภาพพื้นที่บาง

                  แหงเปนที่ลาดลอนชัน และหนาดินถูกชะลางพังทลายไดงาย  ซึ่งเปนสาเหตุสําคัญอยางหนึ่งที่ทําใหความ

                  อุดมสมบูรณของดินลดลง

                          5.2 ความอุดมสมบูรณของดิน  ถึงแมดินเดิมจะมีความอุดมสมบูรณในระดับปานกลางก็ตาม แต

                  เนื่องจากสภาพพื้นที่เอื้อตอการชะลางพังทลาย ดังนั้นถาไมมีการปรับปรุงแกไขอยางเหมาะสม ความอุดมสมบูรณ

                  ของดินจะลดลงตามลําดับ

                          5.3  ดินเก็บความชื้นไดนอย   เนื่องจากกลุมดินนี้มีความพรุนสูง น้ําจึงซึมผานชั้นดินรวดเร็วมาก

                  พื้นที่ซึ่งมีสภาพดังกลาว ไมเหมาะที่จะพัฒนาแหลงน้ําเพื่อการเกษตร นอกจากนี้ไมผลที่ปลูกในดินที่เก็บน้ํา

                  ไดนอย มักขาดน้ําในฤดูแลง

                  6. การจัดการเพื่อใหเหมาะสมในการปลูกพืช


                          6.1 ปรับปรุงความอุดมสมบูรณของดิน  โดยการใชปุยอินทรีย ไดแก ปุยหมัก ปุยคอก หรือปุยพืช

                  สดควบคูกับการใชปุยเคมี สําหรับสูตรปุย อัตรา และวิธีการใช ซึ่งกลาวไวในหัวขอที่ 9

                          6.2  การอนุรักษดินและน้ํา  มีความจําเปนสําหรับดินกลุมนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งมีความลาดเท

                  เกิน 5 เปอรเซ็นต อันเปนสภาพที่งายตอการชะลางพังทลายของหนาดิน จึงตองนํามาตรการอนุรักษดินและ
                  น้ํามาใชในพื้นที่เพาะปลูกใหเหมาะสม ไดแก

                         1) การใชวัสดุคลุมผิวดิน เชน ฟางขาว เศษพืชตางๆ เพื่อลดแรงกระแทกของเม็ดฝนตอผิวดิน และ

                  ลดการสูญเสียน้ําจากผิวดินไดมาก วิธีนี้ใชไดดีในการปลูกพืชไรและพืชผัก เมื่อวัสดุคลุมดินเหลานี้สลายตัว

                  ยังชวยเพิ่มอินทรียวัตถุใหแกดินอีกดวย

                         2) การปลูกพืชคลุมดิน เชน ปลูกพืชตระกูลถั่วหรือหญาคลุมดิน เพื่อชวยลดการชะลางพังทลาย วิธี
                  นี้เหมาะสําหรับสวนไมผลและไมยืนตน

                         3)  การสรางสิ่งกีดขวางทิศทางการไหลของน้ําที่ผิวดินเมื่อฝนตกหนัก เชน  ทําคันดิน ปลูกพืชเปน

                  แถบขวางแนวความลาดเทของพื้นที่  ทําคันเบนน้ํา ขุดรองระบายน้ํา ขุดบอดักตะกอน หรือบอน้ําประจําไร

                  นา วิธีการเหลานี้จะชวยชะลอการไหลบาของน้ําบนผิวดิน และลดการชะลางพังทลายของดินดวย

                          6.3  การจัดระบบการปลูกพืชหมุนเวียน  โดยปลูกพืชไรหรือพืชผักหมุนเวียนกับพืชตระกูลถั่วซึ่ง

                  เปนพืชบํารุงดิน หรือปลูกพืชตระกูลถั่วแซมระหวางแถวไมผล และไมยืนตนขณะที่พืชหลักมีอายุไมเกิน 5 ป

                  วิธีนี้นอกจากจะชวยปรับปรุงความอุดมสมบูรณของดินแลว ยังเพิ่มรายไดแกเกษตรกรอีกทางหนึ่งดวย
   147   148   149   150   151   152   153   154   155   156   157