Page 91 - เขตการใช้ที่ดินพืชเศรษฐกิจข้าวนาปรัง
P. 91
3-16
3.4 การประเมินศักยภาพการใชน้ําชลประทานเพื่อการเพาะปลูก
เนื่องจากการปลูกพืชฤดูแลง จําเปนตองมีแหลงน้ําตนทุนใหเพียงพอตอการปลูกพืช
ใหตลอดฤดูปลูก เพื่อมิใหเกิดความเสี่ยงตอผลผลิตเสียหายทั้งดานผลผลิตตอไร และปริมาณ
ผลผลิตรวมทั้งหมด ซึ่งแหลงน้ําที่จะใชในการเพาะปลูก จะไดมาจากแหลงกักเก็บน้ําที่จัดสราง
และแหลงน้ําตามธรรมชาติ ไดแก อางเก็บน้ํา เขื่อน แหลงน้ําขนาดเล็ก (ฝาย ทํานบ) และแหลงน้ํา
ธรรมชาติทั่วไป เชน แมน้ํา ลําคลอง สระ หนองน้ําตางๆ นอกจากนี้ยังมีแหลงน้ําใตดินที่ใชใน
การเกษตรได โดยเฉพาะที่ราบลุมภาคเหนือตอนลางและภาคกลางตอนบน แตอยางไรก็ตาม
แหลงน้ําผิวดินที่เปนแหลงน้ําขนาดใหญที่มีอยูในภาคตางๆ ของประเทศไทย ประมาณ 30 กวาแหง
นับวาแหลงน้ําตนทุนที่นํามาใชในกิจกรรมตางๆ โดยเฉพาะประมาณรอยละ 70-80 ของทั้งหมด จะใช
เพื่อการเกษตรกรรม ดังนั้น การวิเคราะหปริมาณน้ําที่มีอยูที่สามารถชวยเหลือในการเพาะปลูกพืชฤดูแลง
ในแตละป จึงถูกนํามาพิจารณาจัดสรรน้ําเพื่อการปลูกพืชวามีศักยภาพพอเพียงหรือไม ซึ่งจากแผนการ
จัดการน้ําและการเพาะปลูกพืชฤดูแลงป 2547/48 ของกรมชลประทานที่กําหนด จึงสามารถนํามา
เปนฐานในการกําหนดพื้นที่เพาะปลูกในฤดูเพาะปลูกปนี้ และจะนํามาวางแผนในอนาคต โดยในป
2548 กรมชลประทานไดกําหนดพื้นที่เปาหมายโดยไดวางแผนการจัดสรรน้ําคิดเปนปริมาณน้ํารวม
ทั้งสิ้น 12,446 ลานลูกบาศกเมตร ในจํานวนนี้เปนการใชเพื่อการเกษตร 9,526 ลานลูกบาศกเมตร
นอกนั้นเพื่อการอุปโภค-บริโภคและอื่นๆ โดยปริมาณน้ําดังกลาวจะนําไปกําหนดเปาหมายการ
ปลูกพืชฤดูแลง คือ ใชปลูกขาวนาปรังประมาณ 5.40 ลานไร ปลูกพืชไร-พืชผัก 0.945 ลานไร ที่เหลือ
นอกนั้นใชในสวนผลไมและกิจกรรมอื่น (ตารางภาคผนวกที่ 2 )
ซึ่งจากการศึกษาและรวบรวมขอมูลแตละพื้นที่พบวา ในป 2548 นี้ไดเกิดวิกฤติภัยแลง
อยางรุนแรง ทั้งนี้เนื่องจากวาเกิดภาวะฝนทิ้งชวงอยางยาวนาน ตั้งแตเดือนตุลาคม 2547 เปนตนมา
ทําใหน้ําตนทุนที่มีอยูในแหลงน้ําตาง ๆ ลดนอยกวาปที่ผานมามาก ทําใหเกิดการขาดแคลนน้ําอยางหนัก
โดยเฉพาะพื้นที่ปลูกขาวนาปรังในเขตภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทําใหหลายพื้นที่ตาง ๆ
ประสบกับปญหาความแหงแลง โดยเฉพาะขาวนาปรังที่ตองใชปริมาณน้ํามากกวาฤดูปกติและ
พืชไร-พืชผักอื่นๆ (ตารางที่ 3-4 ) ซึ่งปญหาดังกลาวนี้ ทางการจึงไดกําหนดพื้นที่เปาหมายการปลูก
พืชฤดูแลงในป 2547/48 ขึ้นมาทั้งประเทศ โดยคณะอนุกรรมการวางแผนและสงเสริมการปลูก
พืชฤดูแลง ไดกําหนดพื้นที่เพาะปลูกขาวนาปรังประมาณ 7.52 ลานไร ซึ่งต่ํากวาเปาหมายระยะยาว
(ป2547-2551) ที่กําหนดไวไมต่ํากวา 9.0 ลานไร โดยแยกเปนเขตชลประทานประมาณ 5.4 ลานไร
และนอกเขตชลประทาน 2.12 ลานไร และในสวนของพืชไร-พืชผักไดกําหนดไวประมาณ 2.67 ลานไร
โดยในเขตชลประทานประมาณ 0.95 ลานไร และนอกเขตชลประทาน 1.72 ลานไร เพื่อเปน