Page 9 - แนวทางการส่งเสริมการเกษตรที่เหมาะสมตามฐานข้อมูลแผนที่เกษตรเชิงรุก Agri-Map จังหวัดกำแพงเพชร
P. 9

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

                                                                2








                             2) ที่ราบตะกอนน้ําพา (Alluvial plain) เปนบริเวณที่ไดรับอิทธิพลของแมน้ําหรือลํา
                       น้ําสาขา วัตถุตนกําเนิดดินเปนตะกอนน้ําพา (Alluvium) มีสภาพพื้นที่เปนที่ราบขนาดใหญสอง
                       ฝงแมน้ํา แตละฝงอาจมีที่ราบแบบขั้นบันไดหรือตะพักไดหลายระดับ แบงเปน

                               (1) ตะพักลําน้ําระดับต่ํา (Low terrace) เปนที่ลุม มีสภาพพื้นที่ราบเรียบ ดินลึกมาก
                       เนื้อดินอาจเปนดินเหนียวละเอียดถึงดินทรายแปงละเอียด สีเทา น้ําตาลปนเทา และน้ําตาล มีจุดประ

                       สีตาง ๆ การระบายน้ําคอนขางเลวถึงเลว เชน ชุดดินโพทะเล (Plo) และชุดดินพิษณุโลก (Psl) เปนตน
                               (2) ตะพักลําน้ําระดับกลางและระดับสูง (Middle and High terrace) เปนที่ดอน มี

                       สภาพพื้นที่คอนขางราบเรียบถึงลูกคลื่นลอนลาด ดินตื้นถึงชั้นกรวดลูกรังถึงดินลึกมาก เนื้อดินเปนดิน
                       รวนหยาบ ดินรวนละเอียดหรือดินรวนปนชิ้นสวนหยาบมาก สีน้ําตาล เหลือง น้ําตาลปนแดง

                       ไปจนถึงแดง การระบายน้ําดีปานกลางถึงดี เชน ชุดดินสันปาตอง (Sp) และชุดดินขาณุ (Khu) เปนตน
                               (3) เนินตะกอนน้ําพารูปพัด (Alluvial fan) เปนที่ดอน มีสภาพพื้นที่คอนขางราบเรียบถึง
                       ลูกคลื่นลอนลาด เปนดินลึกมาก เนื้อดินเปนดินรวนหยาบถึงดินทรายแปงละเอียดสีน้ําตาลเหลือง

                       จนถึงแดง การระบายน้ําดีปานกลางถึงดี เชน ชุดดินกําแพงเพชร (Kp) และชุดดินไทรงาม (Sg)
                       เปนตน

                             3) ที่ลาดเชิงเขา (Piedmont) เขา (Hill) ภูเขา (Mountain) มีสภาพพื้นที่เปนลูกคลื่น
                       ลอนลาดถึงเนินเขา ที่เกิดจากการที่หินผุพังสลายตัวอยูกับที่หรือถูกเคลื่อนยายโดยแรงโนมถวงของโลก

                       ในระยะทางใกลๆ และถูกควบคุมดวยลักษณะของโครงสรางทางธรณีวิทยา สวนใหญพบหินปะปนใน
                       หนาตัดดินและลอยหนา แบงตามลักษณะและชนิดของหินดังนี้

                               (1)  พัฒนาจากกลุมหินตะกอนหรือหินแปรเนื้อหยาบหรือหินในกลุม สวนใหญเปนหิน
                       ทรายและหินควอรตไซต ดินตื้นถึงชั้นเศษหินหรือหินพื้นถึงดินลึกปานกลาง เนื้อดินเปนดินรวนหยาบ
                       ถึงดินรวนปนชิ้นสวนหยาบมาก สีน้ําตาล น้ําตาลปนเหลือง น้ําตาลปนแดง จนถึงแดง การระบายน้ําดี

                       พบเศษหินปะปนในหนาตัดดินหรือบนผิวดิน เชน ชุดดินทายาง (Ty) และชุดดินลาดหญา (Ly)
                       เปนตน

                               (2)  พัฒนาจากกลุมหินตะกอนหรือหินแปรเนื้อละเอียดหรือหินในกลุม สวนใหญเปน
                       หินดินดานและหินฟลไลต ดินตื้นถึงชั้นเศษหินหรือหินพื้นถึงดินลึกปานกลาง เนื้อดินเปนดินเหนียว

                       ละเอียดถึงดินเหนียวปนชิ้นสวนหยาบมาก สีน้ําตาล น้ําตาลปนแดง และน้ําตาลปนเหลือง การระบายน้ําดี
                       บางบริเวณพบเศษหินปะปนในหนาตัดดินหรือบนผิวดิน เชน ชุดดินวังสะพุง (Ws) และชุดดินลี้ (Li)

                       เปนตน
                               (3)  พัฒนาจากหินอัคนีชนิดไรโอไลต ดินตื้นถึงชั้นเศษหิน เนื้อดินเปนดินรวนปนชิ้นสวน
                       หยาบมาก สีน้ําตาล น้ําตาลปนเหลือง และน้ําตาลปนแดง การระบายน้ําดี อาทิ ชุดดินไพศาลี (Phi)

                               (4)  พัฒนาจากหินอัคนีชนิดหินแกรนิต ดินตื้นถึงชั้นเศษหินหรือหินพื้นถึงดินลึกมาก
                       เนื้อดินเปนดินรวนหยาบถึงดินรวนปนชิ้นสวนหยาบมาก สีน้ําตาล น้ําตาลปนแดง ถึงแดง การระบายน้ําดี

                       เชน ชุดดินลานสัก (Lsk) และชุดดินทับเสลา (Tas) เปนตน
   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13   14