Page 70 - ผลกระทบจากการเผาตอซังและไม่ไถพรวนต่อสมบัติดินเพื่อ การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บนพื้นที่สูง จังหวัดเชียงใหม่ Effects of Burning and No-tillage on Soil Properties forMaize Production on Upland in Chiang Mai Province.
P. 70
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
54
ของจำนวนแถวต่อฝัก และน้ำหนักร้อยเมล็ด ในทุกตำรับการทดลอง ถึงแม้ตำรับการทดลองที่ 4 การไม่ไถ
พรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดิน จะให้ขนาดฝัก จำนวนแถวต่อฝักและน้ำหนักร้อยเมล็ดน้อย
ที่สุดก็ตาม
3.2 ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในการทดลองปีที่ 1 และ 2 นั้นพบว่าไม่มีความแตกต่างทางสถิติในทุก
ตำรับการทดลองของน้ำหนักผลผลิตปลอกเปลือกและน้ำหนักเมล็ด ถึงแม้ว่าตำรับการทดลองที่ 4 การไม่ไถ
พรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินจะให้น้ำหนักปลอกเปลือกและน้ำหนักเมล็ดน้อยที่สุดก็ตาม
ในขณะที่การทดลองปีที่ 3 พบความแตกต่างทางสถิติของน้ำหนักผลผลิตปลอกเปลือกและน้ำหนักเมล็ดโดย
ตำรับการทดลองที่ 4 การไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินให้น้ำหนักผลผลิตปลอกเปลือก
และน้ำหนักเมล็ดน้อยกว่าตำรับการทดลองอื่นๆอย่างมีนัยสำคัญ
4.ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ
4.1 จากผลการทดลองในปีที่ 1 พบว่าตำรับที่ 2 การไถพรวนดินสับกลบตอซัง และตำรับการ
ทดลองที่ 3 การไถพรวนดินและเผาตอซังและ มีต้นทุนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สูงถึง 4,461 บาทต่อไร่ ทั้งนี้
เนื่องจากมีค่าไถเตรียมดิน ตำรับการทดลองที่ 4 การไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดิน มี
ต้นทุนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ 4,015 บาทต่อไร่ เนื่องจากมีค่าพันธุ์ถั่วปิ่นโตที่ใช้ปลูกคลุมดิน และตำรับ
การทดลองที่ 1 การไม่ไถพรวนและเผาตอซังซึ่งเป็นวิธีที่นิยมของเกษตรกรในปัจจุบันมีต้นทุนมีต้นทุนการผลิต
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต่ำสุดที่ 3,815 บาทต่อไร่ แต่สำหรับการทดลองในปีที่ 2 และ 3 นั้นตำรับการทดลองที่ 4
จะมีต้นทุนการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เท่ากับตำรับการทดลองที่ 1 เนื่องจากไม่มีค่าพันธุ์ถั่วปิ่นโตเพราะถั่ว
ปิ่นโตสามารถเติบโตได้เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ในทุกตำรับการทดลองมีต้นทุนการผลิต
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ต่ำกว่าต้นทุนของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรคำนวณไว้ที่ 4,470 บาทต่อไร่
4.2 รายได้ และกำไรสุทธิจากการผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พบว่าตำรับการทดลองที่ 1 การไม่ไถ
พรวนและเผาตอซังให้รายได้ และกำไรสุทธิสูงที่สุดในทุกปีที่ทำการทดลอง โดยตำรับการทดลองที่ 1 การไม่
ไถพรวนและเผาตอให้รายได้สูงสุดอยู่ในช่วง 8,837 – 10,284 บาทต่อไร่ และให้กำไรสุทธิสูงสุดอยู่ในช่วง
5,021- 6,468 บาทต่อไร่ และตำรับที่ 4 การไม่ไถพรวนดิน ไม่เผาตอซังและปลูกถั่วปิ่นโตคลุมดินให้รายได้
และกำไรสุทธิรองลงมา โดยให้รายได้อยู่ในช่วง 8,508 – 9,462 บาทต่อไร่ และให้กำไรสุทธิอยู่ในช่วง 4,692
– 5,647 บาทต่อไร่ สำหรับการทดลองที่ 2 และ 3 ให้รายได้และกำไรสุทธิที่น้อยกว่า เนื่องจากมีค่าไถพรวน
เตรียมดิน
เมื่อพิจารณาในแง่ต้นทุนการผลิตและกำไรสุทธิจะพบว่าการไม่ไถพรวนและการเผาตอซัง จะมีต้นทุน
ที่ต่ำที่สุดและมีกำไรสุทฺธิสูงที่สุด และสะดวกในทางปฏิบัติ ในขณะที่การไม่ไถพรวนดินไม่เผาตอซังและปลูก
พืชคลุมดินจะมีต้นทุนและกำไรสุทธิรองลงมา แต่สามารถช่วยลดการสูญเสียดิน การสูญเสียธาตุอาหารพืชจาก
การชะล้างพังทลายของดินได้เป็นอย่างดี เมื่อพิจารณามาตรการด้านสิ่งแวดล้อม การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี
สำหรับการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (GAP) หรือมาตรการไม่รับซื้อหรือรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลูกให้พื้นเผา
ตอซังในราคาที่ต่ำกว่า นั้น การไม่ไถพรวน ไม่เผาตอซังและปลูกพืชคลุมดินในการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บน
พื้นที่สูงจะเป็นทางเลือกสำหรับเกษตรกรอีกทางหนึ่ง