Page 25 - เทคโนโลยีการจัดการดินเพื่อการผลิตเมล็ดพันธุ์มันแกวที่มีปริมาณและคุณภาพที่ดีที่เหมาะสมในดินทราย จังหวัดมหาสารคาม

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน

23

สําหรับการใสปุยชนิดตางๆ ไมไดทําใหคาปริมาณแมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยนไดในดินหลังการทดลอง
แตกตางกันอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ และการเปลี่ยนแปลงของปริมาณแมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยนไดในดินเพิ่มขึ้น

หรือลดลงเมื่อเทียบกับดินกอนการทดลอง เปนผลมาจากดินไดรับธาตุอาหารจากวัสดุปรับปรุงดินแลว ถูกพืช
นําไปใช และเหลือคางอยูในดินทั้งสองรอบการผลิตพืช
การปลูกมันแกวแบบยกรองและไมยกรอง รวมกับการใสปุยสูตรตางๆ ไมมีอิทธิพลตอการเปลี่ยนแปลง
ปริมาณแมกนีเซียมที่แลกเปลี่ยนไดในดิน การเปลี่ยนแปลงของปริมาณแมกนีเซียมที่ลดลงเกิดจากการดูดดึงไปใช
ในการเจริญเติบโตของมันแกว แมกนีเซียมที่ไดเพิ่มขึ้นในดินนี้มาจากสวนประกอบของปุยอินทรีย

1.5 ปริมาณอินทรียวัตถุในดิน : ในชุดดินนี้จะพบวามีระดับอินทรียวัตถุในดินคอนขางต่ําซึ่งกอนปลูกมัน
แกวจะมีปริมาณอินทรียวัตถุในดินทั้งสองปมีคา 0.21% และหากไมมีการเพิ่มอินทรียวัตถุใหกับดินแลว จะมีผลทํา
ใหปริมาณอินทรียวัตถุลดลงอยางตอเนื่อง เนื่องจากสูญสลายไปกับสภาพของภูมิอากาศ ซึ่งไดแก อุณหภูมิ และ

น้ําฝน (ปรัชญาและคณะ, 2534) หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตเมล็ดมันแกว มีปริมาณอินทรียวัตถุในดินสูงขึ้นทั้งสองรอบ
การผลิต โดยวิธีการยกรองและไมยกรองปลูกมันแกว จะมีคาอินทรียวัตถุทั้งสองรอบการผลิต อยูระหวาง 0.30-
0.39% โดยไมมีความแตกตางทางสถิติ ดังนั้นการยกรองหรือไมยกรองปลูกมันแกว ไมมีอิทธิพลตอการเพิ่มของ
อินทรียวัตถุ

สําหรับการใสปุยเคมีชนิดตางๆ ไมไดทําใหคาปริมาณอินทรียวัตถุในดินหลังการทดลองแตกตางกันอยางมี
นัยสําคัญทางสถิติ และการเปลี่ยนแปลงของปริมาณอินทรียวัตถุในดินเพิ่มขึ้น ซึ่งไมไดเกิดจากการใสปุยเคมีสูตร
ตางๆ แตอยางใด ดังนั้นแตละตํารับการทดลอง การยกรองหรือไมยกรองปลูกมันแกวรวมกับการใชปุยเคมีชนิด
ตางๆ ไมมีอิทธิพลตอการเพิ่มขึ้นของอินทรียวัตถุในดิน ไมมีความแตกตางอยางมีนัยสําคัญทางสถิติ อินทรียวัตถุที่

เพิ่มขึ้นเกิดจากการใสปุยอินทรียเคลาในดินกอนปลูกมันแกว
1.6 ปริมาณไนโตรเจนรวม : ปริมาณไนโตรเจนรวมจะสัมพันธสอดคลองกับปริมาณอินทรียวัตถุในดิน โดย
ที่ถาปริมาณอินทรียวัตถุสูง ปริมาณไนโตรเจนรวมจะสูงดวย เนื่องจากอินทรียวัตถุเปนแหลงสําคัญของไนโตรเจน
ในดิน (ไพบูลย, 2528) จากการศึกษาปริมาณไนโตรเจนรวมกอนทําการทดลอง จะมีปริมาณไนโตรเจนรวมในดิน

ทั้งสองปมีคาโดยเฉล ี่ย 0.01%N หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตเมล็ดมันแกว มีปริมาณไนโตรเจนรวมในดินสูงขึ้นทั้งสอง
รอบการผลิต โดยวิธีการยกรองและไมยกรองปลูกมันแกว จะมีคาไนโตรเจนทั้งสองรอบการผลิต อยูระหวาง
0.015-0.019%N ไมมีความแตกตางกันทางสถิติ ดังนั้นการยกรองหรือไมยกรองปลูกมันแกว ไมมีอิทธิพลตอการ
เพิ่มของไนโตรเจน

สําหรับการใสปุยเคมีชนิดตางๆ ไมไดทําใหคาปริมาณไนโตรเจนในดินหลังการทดลองแตกตางกันอยางมี
นัยสําคัญทางสถิติ โดยในแตละตํารับการทดลองมีคาปริมาณไนโตรเจนในดินไมแตกตางกันมากนักโดยมีคาอยู
ในชวง 0.014-0.022%N การยกรองหรือไมยกรองปลูกมันแกวรวมกับการใชปุยเคมีชนิดตางๆ ไมมีอิทธิพลตอการ
เพิ่มขึ้นของไนโตรเจนรวมในดิน

1.7 ปฏิกิริยาดิน : ในสภาพดินที่มีการชะละลายมากจะมีผลทําใหอนุมูลของธาตุอาหารพืชซึ่งเปนประจุบวกที่
มีสภาวะเปนดางถูกชะลางออกไปจากอนุภาคของดินมากขึ้น และในขณะเดียวกันประจุบวกไฮโดรเจนจากน้ําและ
ประจุบวกอะลูมินั่มจะเขาไปแทนที่ ทําใหดินมีโอกาสเกิดความเปนกรดของดินมากขึ้น แตถาเกษตรกรมีการปรับปรุง

บํารุงดิน ความเปนกรดของดินจะไมต่ํามาก ปรากฏวาเมื่อวัดคาปฏิกิริยาดินกอนการทดลองพบวาดินมีความเปนกรด
ปานกลาง (moderately acid) วัดคาปฏิกิริยาดินได 5.6-6.0 เมื่อปรับปรุงดินดวยปุยอินทรียกอนปลูกมันแกว ทั้ง
แบบยกรองและไมยกรองปลูกมันแกว ทําใหคาปฏิกิริยาดินอยูในระดับที่เหมาะสม อยูในชวง 5.68-5.94 ปุยอินทรีย