Page 67 - แนวทางการจัดทำแผนที่แสดงความลาดชันของพื้นที่จากข้อมูลแบบจำลองระดับสูงเชิงเลขด้วยระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์
P. 67
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
59
ของพื้นที่โดยเฉลี่ยในแต่ละระดับชั้นความลาดชันในสัดส่วนที่เท่ากันและครบทุกระดับชั้นความลาดชัน
ที่ปรากฏอยู่บนแผนที่แสดงความลาดชันของแต่ละจังหวัดที่จัดท าขึ้น
1.5) จุดตรวจที่ก าหนดจะต้องเป็นจุดที่สามารถเข้าถึงได้สะดวก สภาพพื้นที่เปิดโล่ง
มีความเหมาะสมในการรังวัดด้วยเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมจีพีเอส แบบ RTK โดยควรน าแผนที่ภาพถ่าย
ออร์โธสีและแผนที่สภาพการใช้ที่ดินในปัจจุบันมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในการคัดเลือกพื้นที่
และการก าหนดจุดตรวจสอบ
ภายหลังจากการก าหนดจุดตรวจสอบบนแผนที่แสดงความลาดชันของพื้นที่ด้วยระบบ
สารสนเทศภูมิศาสตร์ส าหรับน าไปใช้เป็นจุดในการรังวัดพิกัดทางราบและทางดิ่งในภูมิประเทศได้ตามเกณฑ์
ที่ก าหนดไว้แล้ว ให้จัดท าไฟล์ข้อมูลจุดทดสอบพิกัดเหนือ(N) และพิกัดตะวันออก (E) ในระบบพิกัดยูทีเอ็ม
(UTM) พื้นหลักฐานสากล (WGS 84) โซน 47N หรือ 48N ตามต าแหน่งที่ตั้งของแต่ละจังหวัด ในรูปแบบ
ของไฟล์ Comma-separated values (*.CSV) หรือในรูปแบบอื่นที่สามารถน าเข้าข้อมูลผ่านโปรโตคอล
หรือโปรแกรมส าเร็จรูปทั่วไปได้
ภาพที่ 5-6 ตัวอย่างการก าหนดจุดทดสอบเพื่อการประเมินความถูกต้องของแผนที่แสดงความลาดชัน
ของพื้นที่แต่ละจังหวัด
2) การส ารวจรังวัดพิกัดจุดตรวจสอบในภูมิประเทศ เป็นขั้นตอนการรังวัดพิกัดทางราบ
และทางดิ่งของจุดตรวจสอบตามค่าพิกัดทางราบ(N, E) ที่อ่านค่าจากแผนที่แสดงความลาดชันของพื้นที่
ที่จัดท าขึ้น โดยใช้วิธีการก าหนดต าแหน่งบนโลกด้วยดาวเทียมจีพีเอส โดยการรังวัดแบบจลน์ในทันที
(Real Time Kinematic survey : RTK) ซึ่งพิกัดของจุดตรวจสอบที่รังวัดในภูมิประเทศจะมีค่าความคลาดเคลื่อน