Page 122 - การประเมินความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจในการผลิตพืชเพื่อวางแผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาของลุ่มน้ำหลัก : โตนเลสาป ปีการผลิต 2555/56

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
2-87

2.3) การอุตสาหกรรม

ภาคการอุตสาหกรรมในพื้นที่ดําเนินการศึกษา ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมที่พึ่งพิง

ทรัพยากรภายในท้องถิ่นเป็นหลัก โดยสังเกตได้จากอุตสาหกรรมเกษตรเป็นประเภทที่มีจํานวน

โรงงานมากที่สุด โดยเป็นโรงงานประเภทการปอกหัวพืชหรือทําหัวพืชให้เป็นเส้น แว่น หรือแท่ง เป็นต้น
ในปี 2555 ลุ่มนํ้าสาขาโตนเลสาปตอนล่าง (1703) มีโรงงานจํานวน 117 โรงงาน จํานวนเงินลงทุน

2,303,205,621 บาท และมีแรงงานจํานวน 1,433 คน ประเภทอุตสาหกรรมที่มีจํานวนมากที่สุด ได้แก่

อุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งมีจํานวน 65 โรงงาน คิดเป็นร้อยละ 55.56 ของจํานวนโรงานทั้งหมด มีสัดส่วน
การลงทุนคิดเป็นร้อยละ 60.46 ของเงินลงทุนทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ จํานวน

23 โรงงาน อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม จํานวน 8 โรงงาน อุตสาหกรรมก่อสร้าง จํานวน 7 โรงงาน

อุตสาหกรรมเคมีและพลาสติก จํานวน 6 โรงงาน อุตสาหกรรมบริการ จํานวน 2 โรงงาน อุตสาหกรรม

สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม จํานวน 1 โรงงาน นอกจากนี้มีอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ จํานวน 5 โรงงาน
(ในที่นี้ขอยกตัวอย่างชนิดของประเภทอุตสาหกรรมอื่นๆ 3 อันดับแรก ได้แก่ โรงงานห้องเย็น จํานวน

2 โรงงาน อุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องจากภาคการเกษตรเป็นการทํายางแผ่นรมควัน การทํายางเครป ยางแท่ง

ยางนํ้า หรือการทํายางให้เป็นรูปแบบอื่นใดที่คล้ายคลึงกันจากยางธรรมชาติ จํานวน 1 โรงงาน และ
การทําร่ม ดอกไม้เทียม ซิป กระดุม ไม้กวาด แปรง ตะเกียง หรือไฟแช็ก จํานวน1 โรงงาน เป็นต้น)

การขยายตัวของโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ปี 2553-2555 มีการขยายตัวอย่าง

ต่อเนื่อง แต่อัตราการขยายตัวไม่มากนัก โดยในปี 2553 มีจํานวนโรงงานทั้งสิ้น 109 โรงงาน เมื่อถึงปี
2555 มีจํานวนโรงงานทั้งสิ้น 117 โรงงาน เพิ่มขึ้น 8 โรงงาน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.00 ของปี 2553

ประเภทของโรงงานที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

อุตสาหกรรมเคมีและพลาสติก ด้านแรงงานที่ประกอบอาชีพอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม ในปี 2555
เป็นแรงงานที่ประกอบอาชีพอยู่ในอุตสาหกรรมการเกษตรมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 56.52 ของจํานวน

แรงงานทั้งหมด รองลงมา คือ อุตสาหกรรมแปรรูปไม้ คิดเป็นร้อยละ 20.24 อุตสาหกรรมก่อสร้าง

คิดเป็นร้อยละ 6.70 อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม คิดเป็นร้อยละ 5.16 อุตสาหกรรมเคมีและ

พลาสติก คิดเป็นร้อยละ 4.82 อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม คิดเป็นร้อยละ 3.84 อุตสาหกรรม
บริการ คิดเป็นร้อยละ 0.49 และนอกจากนี้เป็นแรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 2.23

(ตารางที่ 2-37)

ในส่วนของอุตสาหกรรมการเกษตร พบว่า ในปี 2555 ส่วนใหญ่เป็นโรงงาน

การปอกหัวพืช หรือทําหัวพืชให้เป็นเส้น แว่น หรือแท่ง จํานวน 35 โรงงาน มีสัดส่วนการลงทุนคิดเป็น
ร้อยละ 10.95 ของจํานวนเงินลงทุนทั้งหมดในอุตสาหกรรมการเกษตร มีแรงงานจํานวน 200 คน รองลงมา

เป็นโรงงานการต้ม นึ่ง หรืออบพืชหรือเมล็ดพืช จํานวน 11 โรงงาน มีสัดส่วนการลงทุนคิดเป็นร้อยละ