Page 81 - แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาคลองนาทวี
P. 81
3-26
เป็นดินเหนียวเหนียวปนทรายแป้ง ปฏิกิริยาดินเป็นด่างเล็กน้อย มีศักยภาพก่อให้เกิดดินกรดก้ามะถัน
ซึ่งเป็นอันตรายต่อพืช มีความสามารถในการทรงตัวของต้นพืชต่้ามาก ท้าให้พืชล้มง่าย เมื่อดินแห้งจะแปรสภาพ
เป็นดินกรดก้ามะถันและเค็ม พบใน หน่วยที่ดินที่ 13/14 และ 13/14M
แนวทางการปรับปรุงแก้ไข ดินเลนเค็มชายทะเลไม่เหมาะสมต่อการเกษตรทุกประเภท
บริเวณพื้นที่ดินเสื่อมโทรม ควรปลูกป่าชายเลน และพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้้า ควรมีบ่อบ้าบัดน้้าเสีย
ก่อนปล่อยลงสู่ทางน้้าธรรมชาติ ส้าหรับป่าชายเลนควรสงวนไว้ให้เป็นแนวกันชนของลมและคลื่น
แหล่งเพาะพันธุ์ของสัตว์น้้า และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ที่อยู่ในป่าชายเลน
2) ดินเปรี้ยวจัด มีเนื้อที่ 6,364 ไร่ หรือร้อยละ 0.65 ของพื้นที่ลุ่มน้้า ประกอบด้วย
หน่วยที่ดินที่ 14 14I 14M และ 14MI เป็นดินที่มีกรดจัดมากท้าให้เกิดการตรึงธาตุอาหารและ 3-26
ปลดปล่อยสารที่เป็นพิษต่อพืช เป็นดินเหนียวจัด การระบายน้้าไม่ดี โครงสร้างดินแน่นทึบ ดินแห้งแข็ง
และแตกระแหงท้าให้ไถพรวนยาก ขาดแคลนแหล่งน้้าจืด และน้้าท่วมขังในฤดูฝนท้าความเสียหายให้กับ
พืชที่ไม่ชอบน้้า
แนวทางการจัดการดินเปรี้ยวเพื่อปลูกข้าวปล่อยน้้าขังในนาแล้วระบายออก เพื่อล้างกรด
ออกจากดิน ใส่ปูนปรับปรุงอัตรา 0.5-1.5 ตันต่อไร่ ปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วไถกลบในช่วงออกดอก ร่วมกับ
การใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 อัตรา 15 กิโลกรัมต่อไร่ รองพื้นและแต่งหน้าด้วยปุ๋ยยูเรีย 10 กิโลกรัมต่อไร่
แนวทางการจัดการดินเปรี้ยวเพื่อปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น ควรยกร่องสูง 50-80
เซนติเมตร หว่านปูนในหลุมปลูก 3-5 กิโลกรัม ใส่ปุ๋ยหมัก 25 กิโลกรัม และควรควบคุมระดับน้้าใน
ร่องสวนให้มีน้้าขังตลอดปี
3) หน่วยดินทรายจัด และดินค่อนข้างเป็นทราย มีเนื้อที่ 191,219 ไร่ หรือร้อยละ 19.47
ของพื้นที่ลุ่มน้้า ประกอบด้วย ดินทรายจัด ได้แก่ หน่วยที่ดินที่ 23 23/43 23/43b 23I/43 23I/43b 23M
23M/43 23MI/43 43 และ 43b ดินค่อนข้างเป็นทรายในพื้นที่ดอน ได้แก่ หน่วยที่ดินที่ 39 39b 39gm
39gmb 39B 39Bb และ 39C ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ ถึงลูกคลื่นลอนลาด
การระบายน้้าของดินค่อนข้างเลว ความอุดมสมบูรณ์ของดินต่้า ความจุในการแลกเปลี่ยนประจุบวกต่้า
ความอิ่มตัวด้วยด่างปานกลาง เนื้อดินบนเป็นดินทรายปนร่วน ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงกรดเล็กน้อย
(pH 5.5-6.5) เนื้อดินล่างเป็นดินร่วนปนทราย ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกลาง (pH 5.5-7.0)
แนวทางแก้ไข การใช้ประโยชน์ของพืชบริเวณนี้ คือ การเลือกชนิดพืชที่มีศักยภาพ
เหมาะสมมาปลูก มีการปรับปรุงบ้ารุงดินร่วมกับมีระบบการอนุรักษ์ดินและน้้า เช่น ในกรณีที่ปลูกพืชไร่
ควรจัดระบบการปลูกพืชให้หนุนเวียนตลอดทั้งปี ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก 3-4 ตันต่อไร่ หรือ
ไถกลบพืชปุ๋ยสด (ปอเทือง 6-8 กิโลกรัมต่อไร่ ไถกลบเมื่ออายุ 50-70 วัน ปล่อยทิ้งไว้ 1-2 สัปดาห์)
ร่วมกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้้าหรือปุ๋ยเคมี มีวัสดุคลุมดินหรือปลูกพืชเป็นแถบ พัฒนาแหล่งน้้าและ
กองนโยบายและแผนการใช้ที่ดิน กรมพัฒนาที่ดิน