Page 500 - รายงานการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักตามกลุ่มชุดดิน เล่มที่ 1 ดินบนพื้นที่ราบต่ำ
P. 500
486
k = ดินไมเหมาะสมตอการทําเขตกรรมพิจารณาเฉพาะความลึกดิน
เนื้อดิน และโครงสรางดิน
x = ดินมีอิทธิพลของเกลือ
w = พื้นที่ไมเหมาะสมตอการใชเครื่องจักรกล
e = พื้นที่งายตอการชะลาง
5. ปญหาและขอจํากัดในการปลูกพืช
5.1 ดินตื้นถึงตื้นมาก มีกรวดลูกรังหรือเศษหินปนกับเนื้อดินมาก ทําใหรากพืชจะชอนไชไดยาก
ในชวงฤดูแลงดินจะแหงเร็ว
5.2 การชะลางพังทลายของดิน เกิดขึ้นในระดับปานกลางถึงรุนแรง โดยเฉพาะการเพาะปลูกใน
พื้นที่ซึ่งมีความลาดเทเกินกวา 5 เปอรเซ็นต โดยไมมีการอนุรักษดินและน้ําอยางเหมาะสม
5.3 ความอุดมสมบูรณของดินลดลงเร็ว เมื่อดินถูกชะลางพังทลายและหนาดินสูญหายไป ชั้น
กรวดลูกรังหรือเศษหินจะโผลขึ้นมาแทน บางพื้นที่ใชปลูกพืชไมไดเลย
5.4 ดินแหงจัดและขาดแคลนน้ําในการเพาะปลูก โดยเฉพาะในฤดูแลง ดินจะมีความชื้นต่ํามาก
จนไมสามารถใชเพาะปลูกพืชได ประกอบกับบริเวณที่พบกลุมชุดดินนี้ระบบชลประทานเขาไมถึง และแหลง
น้ําธรรมชาติมีนอย ปญหาการขาดแคลนน้ําจึงรุนแรง
6. การจัดการเพื่อใหเหมาะสมในการปลูกพืช
6.1 การจัดการปญหาดินตื้น ในการปลูกพืชไรควรเลือกดินที่มีชั้นดินหนากวา 15 ซม. สําหรับพืชที่
มีรากตื้น เชน ขาวโพด ขาวฟาง ถั่วเขียว ถั่วลิสง และอื่นๆ สวนการปลูกไมผลหรือไมยืนตน ควรขุดหลุมปลูก
ใหมีขนาด 75x75x75 ซม. แลวผสมดินกับปุยอินทรีย เชน ปุยคอกหรือปุยหมัก อัตราประมาณ 20-30 กก.ตอหลุม
6.2 การปองกันการชะลางพังทลายของดิน โดยผสมผสานวิธีกลและวิธีการทางพืช สําหรับ
วิธีการทางพืช ไดแก1) ปลูกพืชเปนแถบตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ 2) ปลูกแถบหญาแฝก
ขวางตามแนวระดับเพื่อชวยลดการไหลบาของน้ําและชวยดักตะกอน 3) ปลูกพืชตระกูลถั่วสลับกับแถวพืช
หลัก 4) ปลูกพืชตระกูลถั่วแซมหรือเหลื่อมฤดู หรือ 5) ปลูกพืชคลุมดินในสวนผลไมหรือไมยืนตน สําหรับ
พื้นที่ซึ่งมีความลาดเทเกิน 5 เปอรเซ็นต ควรใชวิธีกล เชน ทําคันดิน คันเบนน้ํา ทางระบายน้ํา บอดักตะกอน
หรือบอน้ําในไรนา เพื่อลดการชะลางพังทลายของหนาดิน
6.3 การอนุรักษน้ําในดินและพัฒนาแหลงน้ํา การอนุรักษน้ําในดินโดยใชวัสดุคลุมผิวดินใน
แปลงพืช หรือปลูกพืชคลุมดินระหวางแถวพืชยืนตน นอกจากนี้ยังตองพัฒนาแหลงน้ําใหเพียงพอตอการ
เพาะปลูก เนื่องจากกลุมชุดดินนี้มักขาดแคลนน้ํา และในฤดูแลงความชื้นในดินต่ํามาก

