Page 480 - รายงานการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักตามกลุ่มชุดดิน เล่มที่ 1 ดินบนพื้นที่ราบต่ำ

466

หญาแฝกตามแนวระดับ หรือ 4) ปลูกพืชคลุมดินและใชวัสดุคลุมดิน โดยเฉพาะระหวางแถวไมผลและไม

ยืนตน
6.3.2 วิธีกล ไดแก 1) การทําคันคูรอบเขา ทางระบายน้ํา และบอดักตะกอน เพื่อชวยชะลอการไหล

บาของน้ําผิวดินและลดการชะลางพังทลายของดิน และ 2) การเขตกรรม ควรไถพรวนดินขวางความลาดเท

ของพื้นที่ ไมไถพรวนขึ้นลงตามความลาดเท เพราะจะเกิดการชะลางพังทลายของหนาดินไดงาย ถาพื้นที่มี

ความลาดเทเกิน 12 เปอรเซ็นต ควรปลูกพืชโดยไมไถพรวนหรือไถพรวนนอยที่สุด เชน ขุดเฉพาะหลุมปลูก

หรือรองปลูกพืช

6.4 ปรับปรุงความอุดมสมบูรณของดิน ซึ่งทําไดหลายวิธีดังนี้

6.4.1 การจัดระบบการปลูกพืช ใหมีพืชบํารุงดินอยูในระบบการปลูกพืชหมุนเวียน ปลูกพืชตระกูล

ถั่วแซมระหวางแถวไมผล ไมยืนตนหรือพืชไรหลัก

6.4.2 การใชปุย โดยใชปุยอินทรีย เชน ปุยคอก ปุยหมักหรือปุยพืชสดรวมกับปุยเคมี สําหรับสูตร

อัตรา และวิธีการใชปุยเคมี ขึ้นอยูกับชนิดของพืช ซึ่งกลาวไวในหัวขอที่ 9

7. ขอเสนอแนะ

กลุมชุดดินที่ 47 โดยทั่วไปมีศักยภาพไมคอยเหมาะสมถึงไมเหมาะสมในการปลูกพืชไรและไมผล

ไมเหมาะสมในการทํานา จึงควรใชเพื่อ 1) พัฒนาเปนทุงหญาเลี้ยงสัตว และปลูกไมโตเร็วบางอยางและ 2)

รักษาไวเปนพื้นที่ปาไมหรือปลูกปาทดแทน เนื่องจากสวนใหญเปนดินตื้นถึงตื้นมาก และมีความลาดเทสูง

อยางไรก็ตามกลุมชุดดินที่ 47 ยังประกอบดวยชุดดินที่มีความลึกปานกลาง เชน ชุดดินลี้ ทาลี่ นครสวรรค

และโปงน้ํารอน ซึ่งใชปลูกพืชไรและไมผลหรือไมยืนตนได แตตองเตรียมหลุมปลูกขนาดใหญกวาปรกติ และ
มีการอนุรักษดินและน้ํา การใชประโยชนที่เหมาะสม คือ พัฒนาเปนทุงหญาเลี้ยงสัตว และการปลูกไมโตเร็ว

หรือพัฒนาเปนทุงหญาเลี้ยงสัตวควบคูกับการปลูกพืชไร

8. การเตรียมดินสําหรับปลูกพืชชนิดตางๆ

8.1 การเตรียมดินสําหรับปลูกพืชไร

8.1.1 ปญหาดินตื้นมีลูกรังหรือเศษกรวดปะปนเนื้อดินมาก

1) เลือกชุดดินที่มีความลึกปานกลาง ไดแก ชุดดินลี้ ทาลี่ นครสวรรค และโปงน้ํารอน ถาเปนดินตื้น
ควรมีเนื้อดินบนหนาไมนอยกวา 15 ซม. และเลือกพืชไรรากตื้นถึงรากหยั่งลึกปานกลางมาปลูก

2) ใสปุยอินทรีย ไดแก ปุยคอก ปุยหมัก หรือใสวัสดุปรับปรุงดิน เชน กากถั่วลิสง แกลบ วัสดุเหลือ

ใชทางการเกษตร อัตรา 2-3 ตัน/ไร เพื่อชวยใหดินรวนซุย และเพิ่มความสามารถในการอุมน้ําของดินในชวง

ฝนทิ้งชวง และในฤดูแลง