Page 172 - รายงานการจัดการทรัพยากรดินเพื่อการปลูกพืชเศรษฐกิจหลักตามกลุ่มชุดดิน เล่มที่ 1 ดินบนพื้นที่ราบต่ำ
P. 172
158
46-0-0 ในอัตราเทากัน คือ 1 กก./ตน รวมกับใชปุยสูตร 0-52-34 อัตรา 0.20 กก./ตน/น้ํา 20 ลิตร ในชวง
เดือนพฤศจิกายนโดยพนปุยทุกๆ 7 วัน ประมาณ 3 ครั้งเพื่อไมใหลําไยแตกใบใหม 3) ลําไยอายุ 5 ปขึ้นไป
เปนชวงที่ลําไยใหผลผลิตแลว ทําการกระตุนการแตกใบออนชุดที่ 1และ2 (ประมาณเดือนกันยายน) ควรใช
ปุยสูตร 15-15-15 และปุยสูตร 46-0-0 ในอัตราเทากัน คือ 1 กก./ตน จากนั้นชวงกลางเดือนตุลาคมเปนชวง
ที่ใหลําไยพักตัวเพื่อพรอมตอการออกดอกควรใชปุยสูตร 46-0-0 อัตรา 2 กก./ตน 4) ระยะลําไยติดผลควร
บํารุงผลใหเจริญเติบโตดวยปุยสูตร 15-15-15 และปุยสูตร 46-0-0 ในอัตราเทากัน คือ 1 กก./ตน 5) กอน
เก็บเกี่ยวผลผลิต 1 เดือน สามารถเพิ่มผลผลิตดวยการใชปุยสูตร 0-0-60 อัตรา 1 กก./ตน และ 6) หลังเก็บ
เกี่ยวผลผลิตใชปุยสูตร 15-15-15 และปุยสูตร 46-0-0 ในอัตราเทากัน คือ 1 กก./ตน ซ้ําอีกครั้ง
9.3.3 สมเขียวหวาน 1) อายุ 1 ปใชปุยสูตร 20-10-10 หรือปุยสูตร 25-7-7 หรือปุยสูตร 15-15-15
+46-0-0 (สัดสวน 1:1) อัตรา 0.5-1.0 กก./ตน โดยแบงใส 4-6 เดือน/ครั้ง และปุยอินทรีย 10-20 กก./ตน
เพียงครั้งเดียวในชวงฤดูฝน 2) ปที่ 2-4 ใชปุยสูตรเดียวกันกับสมปที่ 1 แตเพิ่มอัตราเปน 1-2 กก./ตน โดยใส
3-4 เดือน/ครั้ง และปุยอินทรีย 20-50 กก./ตน เพียงครั้งเดียวในชวงฤดูฝน และ 3) อายุ 4 ปขึ้นไป ซึ่งสมจะ
เริ่มใหผลผลิต ควรแบงการใสปุยเปน 3 ชวง คือ ชวงกอนออกดอก ใสปุยสูตร 12-24-12 อัตรา 1 กก./ตน
และพนปุยธาตุรองและธาตุอาหารเสริมทางใบ ในระยะติดผล พนปุยธาตุรองและธาตุอาหารเสริมทางใบ
เชนเดียวกัน สําหรับชวงใกลเก็บเกี่ยวผลผลิตใชปุยสูตร 13-13-21 อัตรา 1-2 กก./ตน สวนหลังการเก็บเกี่ยว
ผลผลิตแลว ควรใชปุยสูตรเดียวกันกับที่ใชในสมอายุ 1 ป แตใสอัตรา 1-3 กก./ตน พนปุยธาตุรองและธาตุ
อาหารเสริมทางใบ และใสปุยอินทรีย 20-50 กก./ตน
10. สรุป
กลุมชุดดินที่ 28 ประกอบดวยชุดดินชัยบาดาล ดงลาน ลพบุรี น้ําเลน และชุดดินบุรีรัมยบางสวน
ของกลุมชุดดินนี้พบในสภาพพื้นที่เปนลูกคลื่นลอนลาด
มีความลาดเทระหวาง 2-8 เปอรเซ็นต สภาพการระบายน้ําดีปานกลางถึงดี ลักษณะเนื้อดินเปนดิน
เหนียวตลอดหนาตัดดิน สีดินเปนสีดํา หรือสีเทาเขมมาก หรือสีน้ําตาล ในฤดูแลงดินจะแตกระแหงเปนรอง
กวางและลึก ปฏิกิริยาดินเปนกลางถึงดางปานกลาง คาพีเอชอยูระหวาง 7.0-8.0 ความอุดมสมบูรณตาม
ธรรมชาติอยูในระดับปานกลางถึงสูง
ดินมีศักยภาพเหมาะสมในการปลูกพืชไร ไมผลและพืชผัก แตการใชประโยชนนั้นควรเนน
การเกษตรแบบผสมผสาน เชน ปลูกพืชไร-ไมผล-หญาเลี้ยงสัตว หรือ พืชไร-พืชผัก-ไมผล หรือไมยืนตน-
หญาเลี้ยงสัตว เปนตน ปญหาการใชประโยชนที่ดิน ไดแก การชะลางพังทลายของหนาดิน ขาดแคลนน้ําใน
การเพาะปลูกในฤดูแลงและดินขาดธาตุอาหารพืชบางธาตุ การจัดการดินทั่วไปที่ควรดําเนินการ ไดแก การ
อนุรักษดินและน้ํา โดยเฉพาะอยางยิ่งพื้นที่ซึ่งมีความลาดเทตั้งแต 5 เปอรเซ็นต ขึ้นไป โดยการไถพรวนตาม

