Page 66 - เอกสารวิชาการ การใช้อินทรียวัตถุปรับปรุงดินเค็มชายทะเล : เอกสารวิชาการสถาบันวิจัยพัฒนาเพื่อป้องกันการเป็นทะเลทรายและการเตือนภัย เลขที่ 30/02/48
P. 66
49
EC ในน้ํา ; 1 dS/m = 600 ppm
w
EC ในดิน ; 1 dS/m = 640 ppm
e
การวัดคาความเค็มในหองปฏิบัติการใชวิธีการสกัดสารละลายออกมาจากดิน เนื่องจากเมื่อ
เกลือละลายกับน้ําจะแตกตัวเปนประจุบวกและประจุลบ ซึ่งมีผลตอคาการนําไฟฟาของสารละลาย ทําให
สามารถวัดคา ECe จากสารละลายดินได ความเขมขนของเกลือที่เพิ่มขึ้น เชน การเติมเกลือลงไปในสารละลาย
2 เทา ไมทําใหคา ECe สูงขึ้น 2 เทาดวย เพราะเมื่อเพิ่มความเขมขนของเกลือลงไปในสารละลายจะมีอนุภาค
สะเทินที่ไมมีผลตอคา ECe เพิ่มขึ้น จึงไมสามารถคูณคา ECe ที่วัดไดกับสัดสวนของน้ําที่เติมเพื่อเจือจางตัว
อยางดินที่มีเกลือมาก (Ayers and Westcott, 1985)
ถาตองการจะทราบวาพื้นที่บริเวณนั้นจะมีคาความเค็มของดินมากนอยขนาดไหน เพื่อที่จะได
ทราบขอมูลพื้นฐานแตยังไมถึงกับละเอียดเราสามารถปฏิบัติงานในภาคสนามโดยใชวิธีการเก็บตัวอยางดิน นํา
มาละลายกับน้ําในอัตราสวน 1:5 แลวคนใหเนื้อดินและน้ําเขากัน ทิ้งไวสักครู แลวจึงทําการวัดดวยเครื่องวัดคา
การนําไฟฟา ก็สามารถจะคาดคะเนไดวาพื้นที่มีความเค็มขนาดไหน จากนั้นจึงเก็บตัวอยางดินไปตรวจวัดใน
หองปฏิบัติการอีกครั้ง เพื่อใหขอมูลมีความละเอียดมากขึ้น และเครื่องมือนี้ยังวัดคาการนําไฟฟาของน้ําที่มี
ความเค็มดวย
ภาพภาคผนวกที่ 1 ภาพเครื่องมือวัดคาการนําไฟฟาในสนาม
สวนวิจัยและพัฒนาดินเค็ม กรมพัฒนาที่ดิน ยังมีการใชเครื่องที่สามารถใชในการคาดคะเน
ความเค็มของดินและสามารถบอกไดวาเปนพื้นที่รับน้ําหรือพื้นที่ใหน้ําไดดวย นั่นก็คือการใชเครื่องมือ
Electromagnetic Terrain conductivity (EM .34-3) ซึ่งเปนเครื่องมือที่สามารถใชในการหาคาการนํากระแส