Page 13 - ฐานข้อมูลแผนที่แหล่งน้ำประเทศไทย พ.ศ. 2546

5

(7) สรุปรายงาน

ฐานขอมูลแผนที่แหลงน้ําประเทศไทย

น้ําเปนทรัพยากรที่ใชแลว สามารถฟนคืนมาได (Renewable Resources) เชนเดียวกับ

ทรัพยากรปาไม ถามีการใชประโยชนที่เหมาะสมจะสามารถมีใหมนุษยใชไดตลอดไปไมเหมือน

ทรัพยากร กาซ น้ํามัน และแหลงแรใชแลวจะหมดไป โดยธรรมชาติของน้ําสามารถเปลี่ยนแปลง
เปนของแข็ง ของเหลว และเปนไอน้ํา วัฎจักรของน้ําจะวนเวียนระหวางสถานะตาง ๆ ตลอดคือ

ระหวางของแข็ง ของเหลว และไอน้ํา หรือระหวางของเหลวและไอน้ํา เชน ไอน้ําในอากาศ

ควบแนนเปนน้ําตกมาเปนฝนลงสูแผนดินและมหาสมุทร และ น้ําจากแผนดิน และมหาสมุทรก็ละเหยเปน
ไอน้ําตกมาเปนฝนวนเวียนอยูเชนนี้ในภูมิภาคเขตรอน เชน ประเทศไทย แตในภูมิภาคเขตอบอุนหรือ

เขตหนาวจะเปลี่ยนแปลงระหวาง หิมะ น้ํา และไอน้ํา เปนตน

เปนที่ทราบกันดีวาพื้นผิวโลกประกอบดวยน้ําประมาณ 3 ใน 4 ของพื้นที่ผิวโลก
ทั้งหมด “ปริมาณน้ําบนผิวโลกทั้งหมดมีประมาณ 1,350 ลานลูกบาศกกิโลเมตร เปนน้ําเค็มอยูใน

ทะเลและมหาสมุทรประมาณ 97.27% เปนน้ําอยูในแผนดินประมาณ 2.73% น้ําที่อยูในแผนดินนี้

อยูในสถานะน้ําแข็งตามขั้วโลกประมาณ 2.10% ที่เหลือ 0.63% เปนน้ําจืดตามผิวดินและใตดิน
โดยเปนน้ําใตดิน 2/3 และน้ําผิวดิน 1/3 ของน้ําจืดทั้งหมด” (คํานวณจากตารางแหลงน้ําบนผิวโลก

Fair 1971)

1. แหลงน้ําผิวดินประเทศไทย

แหลงน้ําประเทศไทยที่นํามาใชประโยชนในการพัฒนาดานตางๆ ไดแก น้ําฝน
น้ําผิวดิน และน้ําใตดิน จากน้ําทั้ง 3 แหลงนี้ น้ําผิวดินเปนน้ําที่เรานํามาใชประโยชนมากที่สุด

น้ําผิวดินหมายถึง น้ําที่ขังอยูตามผิวดินซึ่งไดแก แองน้ําตามธรรมชาติ คือ หนอง บึง และทะเลสาบ

ลําน้ําตามธรรมชาติ เชน แมน้ํา คลอง และหวย นอกจากนี้ยังมีแหลงน้ําผิวดินที่สรางขึ้น เชน

อางเก็บน้ํา สระน้ํา เขื่อนละฝายกั้นน้ํา เหมืองและคลองสงน้ําเปนตน โดยธรรมชาติน้ําผิวดิน
จะเกิดจากฝนที่ตกลงมาลงแหลงน้ํานั้นโดยตรง เปนน้ําไหลบาลงแหลงน้ํา และมีน้ําฝนอีกสวนหนึ่ง

ซึมลงในพื้นดินและไหลซึมลงแหลงน้ําที่มีระดับต่ํากวา ในการทําแผนที่แหลงน้ําของประเทศไทย

ไดแบงแหลงน้ําเปน 2 สวนใหญ ๆ คือ แหลงน้ําที่มีขอบเขตในแผนที่และแหลงน้ําที่ไมมีขอบเขต
ในแผนที่