Page 71 - แผนบริหารจัดการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ลุ่มน้ำคลองกุย อำเภอกุยบุรี และอำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
P. 71

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                          55






                    การชะล้างพังทลายของดินเป็นปัญหาที่ส าคัญที่ส่งผลให้ทรัพยากรที่ดินเสื่อมโทรม เนื่องจากท าให้

               เกิดการสูญเสียหน้าดิน การสูญเสียธาตุอาหารและอินทรียวัตถุในดิน ส่งผลให้ความอุดมสมบูรณ์ของดิน

               ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดินในการปลูกพืชอย่างเข้มข้นในรอบปี รวมทั้งในพื้นที่ที่มีการ
               ใช้เครื่องจักรกลในการไถพรวนดินเป็นสาเหตุส าคัญที่ท าให้สมบัติทางกายภาพของดินโดยเฉพาะโครงสร้าง

               ดินถูกท าลาย ยิ่งส่งเสริมให้เกิดการพังทลายของดินในพื้นที่  ผลจากการชะล้างพังทลายของดินจะส่งผล

               กระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในพื้นที่ที่เกิดการชะล้างพังทลายของดิน และพื้นที่โดยรอบ และท าให้ผลผลิตต่อ
               หน่วยพื้นที่ลดลง เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ลดลง และเกิดการตื้นเขินของแม่น้ าล าคลองจากมีการสะสม

               ของตะกอนดิน ท าให้ศักยภาพในการเก็บกักน้ าของแหล่งน้ าต่ าลง ปัญหาเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อการ
               เพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป ดังนั้น จึงมีความจ าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการป้องกันการชะล้างพังทลายของ

               ดิน เพื่อรักษาทรัพยากรที่ดินให้สามารถใช้ที่ดินได้อย่างยั่งยืน
                    การชะล้างพังทลายของดินในแต่ละพื้นที่จะมีระดับความรุนแรงแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะของ

               ดินเอง และปัจจัยจากภายนอก โดยปกติแล้วการชะล้างพังทลายของดินในประเทศไทยจะเกิดขึ้นโดยมีฝน

               เป็นปัจจัยหลักที่ส าคัญ แต่โดยธรรมชาติแล้วจะเกิดไม่รุนแรงบนพื้นที่ที่มีความลาดชันน้อยและมีสิ่งปก
               คลุมผิวดินหรือพื้นที่ที่มีความลาดชันสูงแต่มีสิ่งปกคลุมผิวดินหนาแน่นจนเม็ดฝนไม่สามารถกระทบสู่

               พื้นดินได้ แต่จะเกิดรุนแรงมากขึ้นถ้าพื้นที่มีความลาดชันมากขึ้นและไม่มีสิ่งปกคลุมผิวดิน โดยมีกิจกรรม

               การใช้ที่ดินของมนุษย์เป็นตัวเร่งให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น การชะล้างพังทลายของดินนอกจากมี
               ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้วยังส่งผลเสียทางด้านเศรษฐกิจ และจากการประเมินการสูญเสียดิน

               (ตัน/ไร่/ปี) ในพื้นที่ลุ่มน้ าคลองกุย สามารถแบ่งระดับความรุนแรงของการชะล้างพังทลายของดินออกเป็น

               5 ระดับ (ตารางที่ 3-13 และภาพที่ 3-10) ดังนี้
                    1) ความรุนแรงของการชะล้างพังทลายของดินระดับน้อย

                       พื้นที่มีความรุนแรงของการชะล้างพังทลายของดินในระดับน้อย ซึ่งมีปริมาณการสูญเสียดิน 0-2
               ตันต่อไร่ต่อปี โดยมีครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ  267,380 ไร่ หรือร้อยละ 80.88 ของเนื้อที่ลุ่มน้ าพบ

               กระจายตัวอยู่ในต าบลหาดขาม อ าเภอกุยบุรี ซึ่งบริเวณที่มีสูญเสียดินเล็กน้อย ส่วนใหญ่มีสภาพพื้นที่เป็น

               ลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อยถึงพื้นที่ราบเรียบหรือค่อนข้างราบเรียบ การใช้ที่ดินส่วนใหญ่เป็นป่าผลัดใบ
               สมบูรณ์ และใช้ประโยชน์ในการปลูกสับปะรด ยางพารา และปาล์มน้ ามัน แม้ในพื้นที่นี้ซึ่งมีสถานภาพ

               ความรุนแรงในระดับน้อย แต่ควรได้รับการจัดการด้วยมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ าที่เหมาะสมเพื่อป้องกัน
               การสูญเสียดินเพื่อใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม

                    2) ความรุนแรงของการชะล้างพังทลายของดินระดับปานกลาง

                       พื้นที่มีความรุนแรงของการชะล้างพังทลายของดินในระดับปานกลาง ซึ่งมีปริมาณการสูญเสียดิน
               2-5 ตันต่อไร่ต่อปี โดยมีเนื้อที่ครอบคลุมประมาณ 31,010 ไร่ หรือร้อยละ 9.38 ของเนื้อที่ลุ่มน้ าพบ

               กระจายตัวอยู่ในต าบลหาดขาม อ าเภอกุยบุรี ฝั่งทางทิศตะวันออก  สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็น

               พื้นที่ลูกคลื่นลอนชัน ส่วนใหญ่เป็นป่าผลัดใบสมบูรณ์ ในการปลูกสับปะรด ยางพารา และปาล์มน้ ามัน
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76