Page 16 - แผนบริหารจัดการป้องกันการชะล้างพังทลายของดินและฟื้นฟูพื้นที่เกษตรกรรมด้วยระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ ลุ่มน้ำห้วยท่าแค จังหวัดนครราชสีมา
P. 16

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
                                                          2




                                   1













                     ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เกษตรกรท าการเกษตรอาศัยน้ าฝน คิดเป็นร้อยละ 37 ของ
               พื้นที่ประเทศ โดยมีพื้นที่เกษตรน้ าฝน 119 ล้านไร่ ซึ่งเป็นแหล่งที่ปลูกพืชเศรษฐกิจที่ส าคัญของประเทศ

               ได้แก่ ข้าว 49.24 ล้านไร่ อ้อย 11.47 ล้านไร่ มันส าปะหลัง 10.84 ล้านไร่ ข้าวโพด 6.40 ล้านไร่ ไม้ผล

               11.10 ล้านไร่ สวนผัก 4.19 ล้านไร่ และ ยางพารา 25.78 ล้านไร่ (กรมพัฒนาที่ดิน, 2558) พื้นที่ดังกล่าว
               มักประสบปัญหาขาดแคลนน้ าในฤดูแล้ง ท าให้การใช้ประโยชน์ทรัพยากรดินได้ไม่เต็มศักยภาพ จ าเป็นต้อง

               ได้รับการพัฒนาแหล่งน้ าให้พอเพียงกับความต้องการของเกษตรกร ประกอบกับในพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในพื้น

               ที่ดินปัญหาทางการเกษตรกรรม โดยสามารถจ าแนกตามสาเหตุ ของการเกิดได้ 2 ประเภท คือ
               1) ดินปัญหาที่เกิดตามสภาพธรรมชาติ มีเนื้อที่รวม 60 ล้านไร่ ได้แก่ ดินอินทรีย์ 0.34 ล้านไร่ ดินเปรี้ยวจัด

               5.42 ล้านไร่ ดินทรายจัด 11.86 ล้านไร่ ดินตื้น 38.19 ล้านไร่ ดินเค็ม 4.20 ล้านไร่ (บางพื้นที่พบคราบเกลือ

               และมีผลกระทบจากคราบเกลือมีเนื้อที่ 11.50 ล้านไร่) และ 2) ดินปัญหาที่เกิดจากการใช้ประโยชน์ที่ดิน
               เช่น ดินดาน ดินปนเปื้อน ดินเหมืองแร่ร้าง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีดินที่มีปัญหาเล็กน้อยที่เป็นข้อจ ากัด

               ทางการเกษตร เช่น ดินกรด ดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ า เป็นต้น (กรมพัฒนาที่ดิน, 2561) ปัญหา
               ทรัพยากรดินดังกล่าวกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ และเป็นปัจจัยส าคัญที่ท าให้พื้นที่เกษตรน้ าฝนไม่สามารถ

               ก่อสร้างแหล่งน้ าขนาดใหญ่ได้ เนื่องจากต้องใช้งบประมาณจ านวนมากในการวางระบบเพื่อป้องกันไม่ให้

               ปัญหาดินเกิดเพิ่มมากขึ้นจนก่อความเสียหายในวงกว้าง ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน ปัญหาส าคัญอีกประการ
               หนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมในปัจจุบันเกิดจากการใช้ที่ดิน และการเปลี่ยนแปลงสภาพ

               ภูมิอากาศ ซึ่งเป็นการเร่งให้เกิดกระบวนการชะล้างพังทลายของดินใน พื้นที่เกษตรกรรมเกิดขึ้นอย่าง
               ต่อเนื่อง ซึ่งการชะล้างพังทลายของดินเกิดจากกระบวนการที่ส าคัญ คือ กระบวนการแตกกระจาย เมื่อ

               เม็ดฝนตกลงมากระทบกับก้อนดิน ท าให้ก้อนดินแตกเป็นเม็ดดินเล็ก ๆ ภายหลังที่เม็ดฝนกระทบก้อนดิน

               แล้วน้ าบางส่วนก็จะไหลซึมลงไปในดิน เมื่อดินอิ่มตัวจนน้ าไม่สามารถ จะไหลซึมไปได้อีกแล้ว ก็จะเกิด
               น้ าไหลบ่าพัดพาเอาก้อนดินเล็ก ๆ ที่แตกกระจายอยู่บนผิวดินไปด้วย และพัดพาไป และการตกตะกอน

               ทับถม เม็ดดินที่ถูกพัดพาไปกับน้ าจะไหลลงสู่พื้นที่ต่ า ท าให้เกิดการสะสมตะกอนของดินในที่ลุ่มต่ า

               การชะล้างพังทลายของดิน เกิดจากสาเหตุใหญ่ 2 ประการ คือ 1) การชะล้างพังทลายโดยธรรมชาติ
               เป็นการชะล้างพังทลายซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยมีทั้งน้ าและลมเป็นตัวการ เช่น การชะละลาย

               การพัดพาโดยลมตามชายฝั่งทะเลหรือในทะเลทราย การพัดพาดินแบบนี้เป็นแบบที่ป้องกันไม่ได้
               และถ้าเกิดมักใช้เวลานาน เป็นการเกิดแบบค่อยเป็นค่อยไปและช้ามาก และ 2) การชะล้างพังทลายโดยมี
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21