Page 112 - สถานภาพการชะล้างพังทลายของดินในประเทศไทย Status of Soil Erosion in Thailand
P. 112
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
102
ทหารได้น าก าลังเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชน
และได้อพยพย้ายสิ่งของมีการอพยพประชาชนที่อยู่ใน
พื้นที่ริมแหล่งน้ าล าธารตลอดเทือกเขา เนื่องจากมีฝน
ตกสะสมในปริมาณสูงน้ าป่าหลากลงมาเป็นระยะ และ
เพิ่มการเฝ้าระวังดินโคลนถล่ม เนื่องจากบริเวณ
เทือกเขาสูงชันมีปริมาณการอุ้มน้ าเต็มที่แล้ว และหาก
มีฝนตกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะยิ่งมีภาวะความเสี่ยงสูง
ส่งผลให้พื้นที่มีน้ าท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่มหลายอ าเภอ
โดยเฉพาะในพื้นที่อ าเภอท่าศาลาได้รับผลกระทบ
มากที่สุด
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2559 มีรายงานว่า “การแก้ไขวิกฤติน้ า” เป็นวาระส าคัญของประเทศ
ไทย ที่ทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน ต่างก็พยายามช่วยกันแก้ปัญหาที่เรื้อรังและรุนแรงมากขึ้น ปัญหาที่พบในพื้นที่
บึงบอระเพ็ดมีลักษณะตื้นเขิน และเก็บน้ าได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ มีอัตราการระเหยของน้ าในบึงอยู่ที่ระดับ 7-8
มิลลิเมตรต่อวัน หากปล่อยทิ้งไว้ไม่เกิน 3 เดือน น้ าในบึงจะแห้งหมดไป นอกจากนั้น ยังมีอุปสรรคจาก “ปัญหา
การบุกรุก-รุกล้ า” ของประชาชนรอบบึง โดยมีประชาชนกว่า 5,000 ครัวเรือน หรือกว่า 20,000 คน บุกรุกเข้าไป
ท ากินในพื้นที่ดังกล่าว “มาตรการเร่งด่วน” ในเบื้องต้น คือ การเร่งพัฒนาขุดบึงเพื่อลอกตะกอนดิน มีจ านวน
มากกว่า 2 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะมีการขุดลอกตะกอนให้ได้ปีละ 500 ลูกบาศก์เมตร ในแต่ละปีมีตะกอน
มากถึง 2 ล้านลูกบาศก์เมตร ไม่รวมตะกอนที่สะสมอยู่เก่า ซึ่งน่าจะมีมากกว่า 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ท าให้เสีย
พื้นที่เก็บน้ าไปอย่างมาก ดังนั้น การฟื้นฟูบึงบอระเพ็ดจึงเป็นหนึ่งในแผนแก้วิกฤติน้ าที่ส าคัญ โดยมีการสั่งการให้
เร่งวางแผนขุดลอกให้แล้วเสร็จภายใน 5 ปี เพื่อประเทศไทยจะได้มีพื้นที่เก็บน้ าเพิ่มขึ้น และมีแหล่งน้ าจืดสะสม
ไว้ใช้มากขึ้น
กรมชลประทานฟื้นฟูบึงบอระเพ็ดเพิ่มพื้นที่แก้วลิงแก้ปัญหาน้ าท่วมน้ าแล้ง