Page 82 - การจัดระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี บ้านดอยช้าง หมู่ 3 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
P. 82
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
61
4.1.4 การเปลี่ยนแปลงสมบัติทางเคมีของดินก่อนและหลังการด่าเนินการ
จากข้อมูลผลการวิเคราะห์ดินในพื้นที่โครงการขยายผลโครงการหลวงวาวี โดยเก็บครั้ง
แรกก่อนด่าเนินงานโครงการ และเก็บตัวอย่างดินหลังจากการด่าเนินการจัดท่าระบบอนุรักษ์ดินและน้่า
ตามจ่านวนของชุดดินที่พบในโครงการฯ พบว่าสมบัติทางเคมีของดินก่อนและหลังการด่าเนินการมีการ
เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย โดยประเมินค่าจากตารางผนวกที่ 1 – 4 รายละเอียดดังนี้ (ตารางที่ 13)
1) ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH)
ก่อนด่าเนินการ พบว่า ดินมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างเท่ากับ 5.2 ซึ่งมีปฏิกิริยาเป็น
กรดแก่ หลังด่าเนินการพบว่า ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินโดยเฉลี่ยเท่ากับ 5.4 ปฏิกิริยาเป็นกรดแก่
เช่นเดียวกับก่อนด่าเนินการ แต่มีค่าเพิ่มขึ้นขึ้นเล็กน้อย
2) ปริมาณอินทรียวัตถุ (%OM)
ปริมาณอินทรียวัตถุในดินก่อนและหลังด่าเนินการมีค่าเป็นกลาง โดยมีค่าเท่ากับ
1.52 และ 1.56 เปอร์เซ็นต์ ตามล่าดับ
3) ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์
ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินก่อนด่าเนินการมีค่าเท่ากับ 8 มิลลิกรัมต่อ
กิโลกรัม ซึ่งอยู่ในระดับค่อนข้างต่่า หลังด่าเนินการ พบว่า มีปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ในดินมี
ค่าเฉลี่ยที่เพิ่มสูงขึ้นเท่ากับ 9.3 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม แต่อยู่ในระดับค่อนข้างต่่าเช่นเดียวกับก่อนการ
ด่าเนินจัดท่าระบบอนุรักษ์ดินและน้่า
4) ปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้
ดินก่อนและหลังด่าเนินการ มีปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ อยู่ในระดับปาน
กลาง มีค่าเท่ากับ 68 และ 78.6 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม
จากผลวิเคราะห์ดินเปรียบเทียบก่อนและหลังด่าเนินการจัดท่าระบบอนุรักษ์ดินและ
น้่า พบว่า ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ปริมาณอินทรียวัตถุ (%OM) ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็น
ประโยชน์ และปริมาณโพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ ในดินหลังด่าเนินการมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
เมื่อเทียบกับก่อนด่าเนินการ ทั้งนี้อาจเป็นผลเนื่องจากเกษตรกรมีการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยการปลูกไม้ผล
ไม้ยืนต้นในระยะเริ่มต้น ยังไม่มีการปรับปรุงบ่ารุงดินมากนัก ท่าให้สมบัติทางเคมีของดิน มีการ
เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

