Page 24 - การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลจำแนกประเภทที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ถาวรนอกเขตป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดชัยนาท
P. 24
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
14
2.4 หลักเกณฑ์กำรจ ำแนกประเภทที่ดิน
หลักเกณฑ์กำรพิจำรณำกำรจ ำแนกประเภทที่ดิน หมำยถึง หลักเกณฑ์ในกำรพิจำรณำจ ำแนก
ประเภทที่ดิน ออกเป็น 2 ประเภท คือ พื้นที่ที่ควรเก็บไว้เป็นป่ำไม้ถำวร และพื้นที่ที่ควรจ ำแนกออกเป็น
ที่ท ำกินหรือใช้ประโยชน์อย่ำงอื่น (กรมพัฒนำที่ดิน 2559) ตำมพระรำชบัญญัติพัฒนำที่ดิน พ.ศ. 2526
ต่อมำได้ถูกยกเลิกแก้ไขเพิ่มเติมตำมพระรำชบัญญัติพัฒนำที่ดิน พ.ศ. 2551 ได้ก ำหนดให้คณะกรรมกำร
พัฒนำที่ดิน มีอ ำนำจหน้ำที่ในกำรก ำหนดกำรจ ำแนกประเภทที่ดินและเสนอขอรับควำมเห็นชอบต่อ
คณะรัฐมนตรีเพื่อให้หน่วยงำนของรัฐมีหน้ำที่รับไปปฏิบัติ มำตรำ 9(1) คณะกรรมกำรพัฒนำที่ดินได้เคย
ก ำหนดหลักเกณฑ์กำรพิจำรณำจ ำแนกประเภทที่ดินในกำรประชุมคณะกรรมกำรพัฒนำที่ดิน ครั้งที่
4/2530, 3/2534, 3/2537, 2/2540 และครั้งที่ 4/2553 ดังนี้ (ดังแสดงในตำรำงที่ 2-1)
ตำรำงที่ 2-1 ตำรำงแสดงข้อมูลหลักเกณฑ์กำรจ ำแนกประเภทที่ดิน
พื้นที่ป่ำไม้ถำวรซึ่งสมควรจ ำแนกออกเป็นที่ท ำกิน
พื้นที่ซึ่งจะต้องรักษำไว้เป็นป่ำไม้ถำวร
และใช้ประโยชน์อื่นๆ
1.) พื้นที่ซึ่งมีสภำพเป็นป่ำไม้ 1.) พื้นที่ซึ่งหมดสภำพป่ำและดินเหมำะสมแก่
2.) พื้นที่ซึ่งคณะรัฐมนตรีก ำหนดให้จัดเป็นชั้นคุณภำพ กำรเกษตร มีกำรถือครองและท ำประโยชน์แล้ว
ลุ่มน้ ำ ชั้น 1 หรือชั้น 2, หรือส ำหรับชั้น 3 ในบริเวณ 2.) พื้นที่สำธำรณประโยชน์ที่พลเมืองใช้ร่วมกัน เช่น
ที่ควำมลึกของดินน้อยกว่ำ 50 ซ.ม. ที่ท ำเลเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น
3.) ตำมข้อเสนอของผู้แทนกรมอุทยำนแห่งชำติ สัตว์ป่ำ 3.) พื้นที่ซึ่งใช้ประโยชน์ของหน่วยรำชกำร เช่น ที่ดิน
และพันธุ์พืช เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่หน่วยงำนและ หน่วยรำชกำร อ่ำงเก็บน้ ำชลประทำน
โครงกำรของกรมป่ำไม้ กรมอุทยำนแห่งชำติ สัตว์ป่ำ 4.) เขตห้ำมล่ำสัตว์ ถ้ำรำษฎรมี น.ส. 3 ถือครองอยู่
และพันธุ์พืชและกรมทรัพยำกรทำงทะเลและชำยฝั่ง แล้ว ตำมประมวลกฎหมำยที่ดินก่อนประกำศ
ซึ่งเป็นหน่วยงำนที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตำมพระรำชบัญญัติ พระรำชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่ำ
ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 (ปรับปรุงตำม พ.ศ. 2535 ให้จ ำแนกออกจำกเขตห้ำมล่ำสัตว์
มติคณะกรรมกำรฯ ครั้งที่ 4/2553) 5.) พื้นที่ซึ่งมีสภำพป่ำ มีเนื้อที่แห่งละไม่เกิน 500 ไร่
4.) พื้นที่ซึ่งดินไม่สำมำรถใช้ในทำงเกษตรกรรมได้ ให้จ ำแนกออกเป็นป่ำชุมชน เว้นแต่ กรณีที่มี
5.) พื้นที่ซึ่งเป็นเกำะ ภูเขำ หรือพื้นที่ซึ่งมีควำมลำดชันเกิน 35% พื้นที่ติดต่อกับป่ำสงวนแห่งชำติ, อุทยำนแห่งชำติ,
6.) ป่ำชำยทะเล, ป่ำชำยเลน, ป่ำที่เกำะ ห้ำมจ ำแนกออก เขตรักษำพันธุ์สัตว์ป่ำหรืออยู่ในเขตพื้นที่ป่ำ
จำกป่ำไม้ถำวร โครงกำรฯ ที่ให้สัมปทำนท ำไม้ให้รักษำไว้เป็น
7.) ป่ำที่เป็นเกำะและไม่มีเอกสำรสิทธิ์ ให้เก็บไว้เป็นป่ำไม้ ป่ำไม้ถำวร
ถำวรทั้งหมด (มติคณะกรรมกำรฯ ครั้งที่ 3/2537)
8.) ป่ำชำยเลน ตำมมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวำคม
2530 หรือพื้นที่เป็นป่ำติดชำยทะเล ให้รักษำไว้เป็น
ป่ำไม้ถำวรไม่ควรจ ำแนกออก ส่วนพื้นที่ที่รำษฎรมี
เอกสำรสิทธิ์ให้รำษฎรร้องขอมำเป็นรำยๆ ไป
ทำงกรมป่ำไม้จะกันออกให้ มติคณะกรรมกำรฯ
ครั้งที่ 3/2534)