Page 16 - การสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลจำแนกประเภทที่ดินในพื้นที่ป่าไม้ถาวรนอกเขตป่าสงวนแห่งชาติจังหวัดชัยนาท
P. 16

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน






                                                          บทที่ 2

                                                       กำรตรวจเอกสำร

                      2.1 ควำมเป็นมำของกำรจ ำแนกประเภทที่ดิน


                             ในปี พ.ศ. 2503 สืบเนื่องมำจำกกำรที่รำษฎรได้บุกรุกเข้ำไปท ำประโยชน์ในพื้นที่ป่ำ
                      เป็นจ ำนวนมำก ในขณะนั้น ฯพณฯ จอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ ด ำรงต ำแหน่งนำยกรัฐมนตรีจึงได้ปรำรภ
                      และบัญชำว่ำต้องกำรจะรักษำพื้นที่ของประเทศไทยซึ่งมีเนื้อที่ 321 ล้ำนไร่ ไว้เป็นป่ำไม้ของชำติ
                      ร้อยละ 50 ของเนื้อที่ประเทศ กำรจ ำแนกประเภทที่ดินในสมัยนั้นเป็นอ ำนำจหน้ำที่ตำมมำตรำ 7
                                                        2
                      แห่งประมวลกฎหมำยที่ดิน พ.ศ. 2497  โดยมีกรมที่ดินเป็นผู้ด ำเนินกำร ซึ่งกระทรวงมหำดไทยได้มี
                      กำรแต่งตั้งคณะกรรมกำรและคณะอนุกรรมกำรส ำรวจจ ำแนกประเภทที่ดินเป็นชุดแรกขึ้น

                                     ส่วนกลำง      ให้ตั้งคณะกรรมกำร โดยมีปลัดกระทรวงมหำดไทยเป็นประธำน

                                     ส่วนจังหวัด   ให้ตั้งคณะอนุกรรมกำร โดยมีผู้ว่ำรำชกำรจังหวัดเป็นประธำน

                      เพื่อด ำเนินกำรส ำรวจและจ ำแนกประเภทที่ดินในพื้นที่จังหวัดต่ำงๆ ในเวลำต่อมำคณะรัฐมนตรีได้มีมติ
                                                   3
                      เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกำยน 2504  เรื่อง กำรจ ำแนกประเภทที่ดิน และเป็นที่มำของ “ป่ำไม้ตำมมติ
                      คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกำยน 2504 ” โดยเห็นชอบตำมที่กระทรวงมหำดไทยเสนอ

                                     1) ให้จังหวัดต่ำงๆ ประกำศป่ำที่จะท ำกำรสงวนคุ้มครอง 1,300 แปลง เนื้อที่ประมำณ

                      175 ล้ำนไร่ หรือร้อยละ 54.63 ของเนื้อที่ทั้งประเทศ และป่ำที่จะเปิดเป็นที่จัดสรรหรือใช้ประโยชน์
                      อย่ำงอื่น เนื้อที่ประมำณ 31 ล้ำนไร่ ในท้องที่ 60 จังหวัดโดยประมำณ โดยให้รำษฎรและหน่วยรำชกำร
                      ที่เกี่ยวข้องรับทรำบทั่วกัน

                                     2) รับหลักกำรในพื้นที่ป่ำที่จะรักษำไว้เป็นสมบัติของชำติ หำกทบวงกำรเมืองใดประสงค์
                      จะเข้ำใช้ประโยชน์จะต้องท ำควำมตกลงกับกระทรวงเกษตรและได้รับอนุมัติจำกคณะรัฐมนตรีเป็นรำยๆ ไป

                                     3) ป่ำที่เห็นสมควรเปิดจัดสรรเพื่อกำรเกษตรกรรมและเพื่อกำรใช้ประโยชน์อย่ำงอื่น

                      ให้ทำงจังหวัดและอ ำเภอท้องที่ด ำเนินกำรจัดสรรให้ประชำชนตำมโครงกำรและระเบียบว่ำด้วยกำรจัดที่ดิน
                      เพื่อประชำชนของคณะกรรมกำรจัดที่ดินแห่งชำติ โดยไม่ต้องขอรับควำมเห็นชอบจำกกระทรวงเกษตร

                             ต่อมำในปี พ.ศ. 2506 ได้มีพระรำชกฤษฎีกำแบ่งส่วนรำชกำรกระทรวงพัฒนำกำรแห่งชำติ
                      โดยให้มีกำรจัดตั้งกรมพัฒนำที่ดินขึ้น เมื่อวันที่ 23 พฤษภำคม 2506 เพื่อท ำกำรส ำรวจจ ำแนก
                      บริรักษ์ บ ำรุงรักษำ และจัดที่ดิน งำนส ำรวจจ ำแนกประเภทที่ดินของกรมที่ดิน จึงได้โอนมำด ำเนินกำร

                      ในกรมพัฒนำที่ดิน โดยมีกองจ ำแนกที่ดินเป็นผู้รับผิดชอบ และในปี พ.ศ. 2526 ได้มีพระรำชบัญญัติ
                      พัฒนำที่ดิน พ.ศ. 2526 อ ำนำจหน้ำที่กำรจ ำแนกประเภทที่ดินอยู่ในมำตรำ 10 ในพระรำชบัญญัติฉบับนี้
                      และให้อยู่ในควำมดูแลของคณะกรรมกำรพัฒนำที่ดิน และได้ยกเลิก มำตรำ 7 แห่งประมวลกฎหมำยที่ดิน

                                                                                                      4
                             ปัจจุบันกรมพัฒนำที่ดิน ได้มีกำรประกำศใช้พระรำชบัญญัติพัฒนำที่ดิน พ.ศ. 2551  ซึ่ง
                      อ ำนำจหน้ำที่กำรจ ำแนกประเภทที่ดินอยู่ในพระรำชบัญญัตินี้ในมำตรำ 16 และอ ำนำจคณะกรรมกำร

                      พัฒนำที่ดินตำมมำตรำ 9(1)






                      2 : ภำคผนวก ข  :  ประมวลกฎหมำยที่ดิน พ.ศ. 2497
                      3 : ภำคผนวก ค  :  มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกำยน 2504 เรื่อง กำรจ ำแนกประเภทที่ดิน
                      4 : ภำคผนวก ง  :  พระรำชบัญญัติพัฒนำที่ดิน พ.ศ. 2551
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21