Page 67 - การใช้เทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินในการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองเพื่อพัฒนาเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด
P. 67
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
53
ถึงแม้การผลิตทุเรียนแบบเคมีจะช่วยเพิ่มปริมาณและคุณภาพของทุเรียนได้ แต่การใช้สารเคมี
ดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้ผลิต ผู้บริโภค และสภาพแวดล้อม โดยผู้ผลิตบางรายเจ็บป่วย บาง
รายเสียชีวิต ดังนั้น ปัจจุบันเกษตรกรจึงได้เริ่มหันมาผลิตทุเรียนแบบอินทรีย์ เพื่อความปลอดภัยต่อ
สุขภาพและเกิดผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
5.2 ข้อเสนอแนะ
จากผลการด่าเนินงานใช้เทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินในการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองเพื่อ
พัฒนาเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ ต่าบลแหลมงอบ จังหวัดตราด ซึ่งผลการด่าเนินงานมานั้น น่ามาสู่
ข้อเสนอแนะเพื่อเป็นแนวทางการสร้างความเข้าใจ และพัฒนาระบบเกษตรอินทรีย์
5.2.1 รัฐบาลควรให้การสนับสนุน ในการด่าเนินงานเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ โดยเผยแพร่
แนวคิดแนวคิดของการจัดการดินที่เหมาะสมในระบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีอาหารที่
ความปลอดภัยจากสารพิษ รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่และภูมิปัญญาชาวบ้านที่ถ่ายทอดสืบ
ต่อกันมาให้เกษตรกรเห็นว่าการผลิตเกษตรอินทรีย์เป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวและสามารถปฏิบัติได้จริง
5.2.2 สนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาหมอดินอาสา หรือ ปราชญ์ชาวบ้าน ให้เรียนรู้เกี่ยวกับ
การใช้เทคโนโลยีกรมพัฒนาที่ดินมาปรับใช้ในการท่าเกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างมาตรฐานเกษตรอินทรีย์
การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์สู่ชุมชนท้องถิ่นของตน
5.2.3 ส่งเสริม และพัฒนาหมอดินอาสา หรือ ปราชญ์ชาวบ้าน ในการเรียนรู้เรื่องต้นทุนการ
ผลิต รายรับ รายจ่าย และผลตอบแทนเหนือต้นทุนผันแปร เพื่อสร้างความเข้าใจในการลดต้นทุนการ
ผลิตจากการไม่ใช้ปุ๋ยเคมี
5.3 ประโยชน์ที่ได้รับ
ผลที่ได้จากการด่าเนินงานใช้เทคโนโลยีการพัฒนาที่ดินในการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองเพื่อ
พัฒนาเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ ต่าบลแหลมงอบ จังหวัดตราด อันจะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรทั้ง
ทางตรงและทางอ้อมซึ่งสามารถสรุปได้ ดังนี้
5.3.1 ฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพดินเสื่อมโทรมให้อุดมสมบูรณ์ ท่าให้ห่วงโซ่อาหารที่ถูกท่าลาย
กลับฟื้นคืนดีขึ้น
5.3.2 ลดต้นทุนการผลิตจากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์แทนการใช้ปุ๋ยเคมี ส่งผลให้เกษตรกรมี
ผลตอบแทนเหนือต้นทุนผันแปรเพิ่มมากขึ้น
5.3.3 ผู้ผลิตและผู้บริโภคปลอดภัยจากการใช้สารเคมี ทั้งทางตรงและทางอ้อม