Page 117 - การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อการสำรวจทรัพยากรดินในพื้นที่สูงบริเวณลุ่มน้ำสาขา น้ำแม่ต้า (ลุ่มน้ำยม)
P. 117
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
97
2.4 ดินที่เกิดจากการกัดกร่อนของภูเขาที่เป็นหินภูเขาไฟ (eroded hills of igneous rocks
such as granite and andesite)
สภาพภูมิประเทศบริเวณนี้มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ลักษณะพื้นที่เป็น
ลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อยถึงสูงชันมาก ความลาดชัน 2 – 75 เปอร์เซ็นต์ ความสูงจากระดับทะเลปานกลาง
ประมาณ 160 – 1,040 เมตร ดินที่เกิดจากหินแกรนิตบริเวณนี้จะเป็นดินร่วนหยาบ ได้แก่ ชุดดินบ้านไร่ (Bar)
เป็นดินลึกปานกลางถึงชั้นหินแกรนิตผุ มีการระบายน้ําดี ปฏิกิริยาดินเป็นกรดปานกลาง (pH 5.6 – 6.0)
มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง และดินที่เกิดจากหินแอนดีไซต์ ได้แก่ ชุดดินท่าลี่ (Tl) ซึ่งเป็นดินตื้นถึงชั้นหินผุ
มีความลึกดินไม่เกิน 50 เซนติเมตรจากผิวดิน มีการระบายน้ําดี ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงเป็นกลาง (pH 5.5 – 7.2)
ชุดดินเชียงของ (Cg) เป็นดินลึกมาก สีน้ําตาลปนแดงเข้ม มีการระบายน้ําดี ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดถึงกรด
ปานกลาง (pH 5.5 – 5.6) โดยดินที่เกิดจากหินอัคนีกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง
3. การศึกษาสมบัติของดินสําหรับการประเมินความอุดมสมบูรณ์ และจําแนกความเหมาะสมของดิน
บริเวณลุ่มน้ําสาขาน้ําแม่ต้า
การศึกษาสมบัติของดินในพื้นที่ลุ่มน้ําสาขาน้ําแม่ต้า โดยใช้ดินเป็นตัวแทนของหน่วยแผนที่ทั้งหมด
จํานวน 13 พีดอน (ตารางที่ 9 และภาพที่ 34) ประกอบด้วย ชุดดินสุโขทัย (Skt), ดินดงยางเอนที่มีจุดประ
สีเทาและมีคันนา (Don-gm,ant), ชุดดินแพร่ (Pae), ดินตะกอนน้ําพาเชิงซ้อนที่มีการระบายน้ําดีและ
เป็นดินร่วนหยาบ (AC-wd,col), ดินวังสะพุงที่เป็นดินลึก (Ws-vd), ดินวังสะพุงที่มีสีน้ําตาล (Ws-br),
ชุดดินวังสะพุง (Ws), ดินมวกเหล็กที่เป็นดินร่วนปนชิ้นส่วนหยาบปริมาณมาก (Ml-lsk), ชุดดินท่ายาง (Ty),
ชุดดินบ้านไร่ (Bar), ดินท่าลี่ที่เป็นดินร่วนปนชิ้นส่วนหยาบปริมาณมาก (Tl-lsk), ดินเชียงของที่มีอุณหภูมิดินแบบ
isohyperthermic และเป็นดินเหนียว (Cg-low,f)
ผลการศึกษาประกอบด้วยสมบัติทางกายภาพ เคมี และองค์ประกอบเชิงแร่ของดิน การประเมินระดับ
ความอุดมสมบูรณ์ของดิน การจําแนกชั้นความเหมาะสมของดินในระดับชุดดินสําหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจ
รวมถึงการจําแนกความเหมาะสมของดินสําหรับใช้ประโยชน์ด้านปฐพีกลศาสตร์ มีรายละเอียดดังนี้
3.1 สมบัติทางกายภาพ เคมี และแร่วิทยาของดิน
3.1.1 การแจกกระจายของอนุภาคและชั้นเนื้อดิน
ผลการศึกษาการแจกกระจายของอนุภาคของดินตามความลึกในแต่ละชั้นดิน แสดงดังภาพที่ 35
พบว่า การกระจายของอนุภาคขนาดทรายของดินทุกบริเวณในชั้นดินบนอยู่ในพิสัย 114 - 901 กรัมต่อกิโลกรัม
ส่วนในชั้นดินล่างอยู่ในพิสัย 42 - 825 กรัมต่อกิโลกรัม โดยส่วนใหญ่การสะสมของอนุภาคขนาดทรายลดลง
ตามความลึก เนื่องจากเกิดการชะละลายในหน้าตัดดินโดยน้ํา ทําให้อนุภาคขนาดเล็กลงไปสะสมในชั้นดินล่าง
(อภิสิทธิ์, 2527) รวมถึงกระบวนการเคลื่อนย้ายเชิงกล (lessivage) ของอนุภาคขนาดเล็กจากชั้นดินบนลงสู่ชั้น
ดินล่าง (เอิบ, 2548) อีกทั้งอิทธิพลจากการกร่อน (erosion) ทําให้อนุภาคขนาดเล็กถูกพัดพาไปจากผิวดินคงเหลือ
อนุภาคขนาดทรายในชั้นดินบนอยู่มาก (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2548) และเมื่อเปรียบเทียบทั้ง 13 พีดอน
พบว่า การแจกกระจายของอนุภาคขนาดทรายมีปริมาณมากที่สุดใน AC-wd,col รองลงมาคือ Bar, Tl-lsk-1,
Tl-lsk-2, Ty, Ml-lsk, Ws, Pae, Cg-low,f, Ws-vd และ Don-gm,ant ตามลําดับ ส่วน Ws-br และ Skt
มีปริมาณต่ําที่สุด และเมื่อพิจารณา Ty, Ml-lsk, Bar, Tl-lsk-1 และ Tl-lsk-2 พบว่า มีอนุภาคขนาดทราย
ลดลงจากดินชั้นบนและเพิ่มขึ้นในตอนล่างของหน้าตัดดินนั้น เกิดจากอิทธิพลของวัตถุต้นกําเนิดดินพวกหินตะกอน
หรือหินอัคนีที่กําลังผุพังสลายตัว และมีแร่ควอตซ์เป็นองค์ประกอบ ดังภาพที่ 36 (ก)