Page 13 - แผนบริหารจัดการทรัพยากรดินปัญหาของประเทศไทยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561 - 2580)
P. 13
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
(3)
3) ท าการให้คะแนน โดยแบ่งกลุ่มตามดินปัญหาที่เกิดตามสภาพธรรมชาติ 5 ประเภท
รวมคะแนนของแต่ละกลุ่มและหาค่าเฉลี่ย เพื่อวิเคราะห์และจัดล าดับความส าคัญของปัจจัย
4) จัดท าแผนพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรดินปัญหาทั้ง 5 ประเภท และเพิ่มอีก 1 ประเภท
คือ ดินปัญหาจากการใช้ที่ดินและมีข้อจ ากัดทางการเกษตร ซึ่งแผนพัฒนาฯ ประกอบด้วย
- การประเมินสภาพแวดล้อมของปัจจัย (SWOT Analysis) ได้แก่ การวิเคราะห์จุดแข็ง
จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค
- การก าหนดเป้าประสงค์ (Goals) และตัวชี้วัด (KPIs) ซึ่งมี 4 มิติ คือ มิติประสิทธิผล
มิติคุณภาพ มิติประสิทธิภาพ และมิติพัฒนาองค์การ
- การก าหนดกลยุทธ์และแนวทางการพัฒนา ซึ่งมี 4 ด้าน ได้แก่ กลยุทธ์เชิงรุก กลยุทธ์
เชิงแก้ไข กลยุทธ์เชิงป้องกัน และกลยุทธ์เชิงรับ
- จัดท าโครงการสนับสนุน ซึ่งเป็นแนวทางการด าเนินงานหรือการศึกษา ค้นคว้า วิจัย ที่มี
ความสอดคล้องกับเป้าหมายในการด าเนินงานอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ผลจากการประชุมเชิงปฏิบัติการฯ สามารถสรุปได้ดังนี้
1) ดินอินทรีย์
จากการวิเคราะห์และจัดล าดับความส าคัญของปัจจัยฯ พบว่า ควรให้ความส าคัญในพื้นที่
ดินอินทรีย์ที่มีวัสดุอินทรีย์หนา 40-100 เซนติเมตรจากผิวดิน เป็นอันดับแรก และดินอินทรีย์ที่มีวัสดุอินทรีย์
หนามากกว่า 100 เซนติเมตรจากผิวดิน จะให้ความส าคัญรองลงมา และให้ความส าคัญในพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดิน
ในการปลูกปาล์มน้ ามัน ยางพารา ข้าว และไม้ยืนต้น เป็นอันดับแรก
2) ดินเค็ม
จากการวิเคราะห์และจัดล าดับความส าคัญของปัจจัยฯ พบว่า ควรให้ความส าคัญเป็นอันดับ
แรกในพื้นที่ดินเค็มที่พบคราบเกลือบนผิวดินน้อยกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่ และไม่เป็นดินที่พบชั้นสะสมเกลือ
จากการละลายของหินเกลืออยู่ภายในหน้าตัดดิน (Natric Horizon) และให้ความส าคัญในพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดิน
ในการปลูกข้าว มันส าปะหลัง และอ้อย ส าหรับพื้นที่ดินเค็มที่พบคราบเกลือบนผิวดินมากกว่าร้อยละ 50
ของพื้นที่ และพบชั้นสะสมเกลือจากการละลายของหินเกลืออยู่ภายในหน้าตัดดิน (Natric Horizon) รวมถึง
ดินเค็มชายทะเล ควรให้ความส าคัญในพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดินในการปลูกข้าว อ้อย มะพร้าว และยางพารา
3) ดินเปรี้ยวจัด
จากการวิเคราะห์และจัดล าดับความส าคัญของปัจจัยฯ พบว่า ควรให้ความส าคัญอันดับแรก
ในพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดที่พบชั้นดินกรดก ามะถันลึกมากกว่า 50 เซนติเมตร ที่มีความรุนแรงของปัญหาต่อการผลิต
พืชในระดับปานกลางถึงน้อย และควรให้ความส าคัญในพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดินในการปลูกข้าว และยางพารา
ส าหรับพื้นที่ดินเปรี้ยวจัดที่พบชั้นดินกรดก ามะถัน ภายในความลึก 50 เซนติเมตรจากผิวดิน ที่มีความรุนแรง
ของปัญหาต่อการผลิตพืชในระดับมาก พบว่า ควรให้ความส าคัญในพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดินในการปลูกข้าว และ
ปาล์มน้ ามัน