Page 111 - การกำหนดเขตการใช้ที่ดินสำหรับปลูกข้าวหอมมะลิของประเทศไทย
P. 111
ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน
3-54
3.3 การวิเคราะห์ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและสังคม
การวิเคราะห์ข้อมูลด้านเศรษฐกิจและสังคมของการผลิตข้าวนาปีได้แบ่งพื้นที่ตามภาค 5 ภาค คือ
ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้พื้นที่ปลูกแบ่งเป็นในเขต
ชลประทานและนอกเขตชลประทาน โดยกําหนดความเหมาะสมของพื้นที่ที่ปลูกข้าวเป็น 3 ระดับ คือ
พื้นที่ที่มีระดับความเหมาะสมสูง (S1) พื้นที่ที่มีระดับความเหมาะสมปานกลาง (S2)และพื้นที่ที่มีระดับ
ความเหมาะสมเล็กน้อย (S3) การศึกษาแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การใช้ปัจจัยการผลิต แบ่ง
การศึกษาตามภาคและระดับความเหมาะสมของพื้นที่ ส่วนที่ 2 ต้นทุน รายได้ (มูลค่าผลผลิต) และ
ผลตอบแทนจากการผลิต แบ่งการศึกษาตามภาค ระดับความเหมาะสมของพื้นที่ ในเขตชลประทานและ
นอกเขตชลประทาน และ ส่วนที่ 3 ปัญหา ความต้องการความช่วยเหลือ ด้านการผลิต และทัศนคติใน
การใช้ที่ดินของเกษตรกรที่ปลูกข้าว
ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการผลิตจําแนกเป็น 2 ประเภท คือ ต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่ ต้นทุน
ผันแปรเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเมื่อทําการผลิตและจะเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิตได้แก่
ค่าใช้จ่ายในการปลูก (พันธุ์และแรงงาน เป็นต้น) ค่าใช้จ่ายในการบํารุงรักษา (ค่าปุ๋ ย สารป้องกัน และ
กําจัดวัชพืช ศัตรูพืช ค่าแรงงาน เป็นต้น) ต้นทุนคงที่เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคงที่แม้จะไม่ทําการผลิต ก็
ต้องมีค่าใช้จ่ายจํานวนนี้ได้แก่ ค่าเช่าที่ดิน ค่าใช้ที่ดิน ค่าภาษีที่ดิน และค่าเสื่อมอุปกรณ์ต่างๆ เป็นต้น
ทุนที่เป็นเงิน เป็นต้นทุนที่เป็นตัวเงินที่เกษตรกรจ่ายไปจริงในการซื้อหรือจ้างปัจจัยในการผลิตต้นทุน
ที่ไม่เป็นเงิน เป็นต้นทุนที่คิดจากมูลค่าของปัจจัยที่เกษตรกรใช้ในการผลิตโดยเกษตรกรเป็นเจ้าของ
ปัจจัยหรือได้มาโดยไม่ได้คิดเป็นตัวเงิน ได้แก่ ค่าแรงงานคนในครัวเรือน ค่าแรงงานเครื่องจักรของตนเอง
และค่าใช้ที่ดินของตนเอง เป็นต้น ผลตอบแทนจากการผลิตจะพิจารณาจากผลตอบแทนเหนือต้นทุนที่เป็น
เงิน ผลตอบแทนเหนือต้นทุนผันแปร และผลตอบแทนเหนือต้นทุนทั้งหมด รวมทั้งอัตราส่วนรายได้
(มูลค่าผลผลิต) ต่อต้นทุนทั้งหมด (B/C) เพื่อเปรียบเทียบและแสดงให้เห็นถึงรายได้ที่ได้รับจากการลงทุน
ข้าว ปี การเพาะปลูก 2555/56 ทําการสํารวจการผลิตในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ของภาคเหนือ ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทั้งในเขตชลประทานและนอกเขตชลประทาน
ตามความเหมาะสมทางกายภาพของพื้นที่ 3 ระดับ คือ ระดับความเหมาะสมสูง (S1)ระดับความเหมาะสม
ปานกลาง (S2) และระดับความเหมาะสมเล็กน้อย (S3) ราคาที่ใช้คํานวณรายได้(มูลค่าผลผลิต) เป็นราคาที่
เกษตรกรขายได้เฉลี่ยตามภาคต่างๆ ทั้งนี้เพื่อกําจัดปัญหาด้านราคาที่มีความแตกต่างกันตามสถานที่และ
ระยะเวลา โดยราคาขายเฉลี่ยของประเทศกิโลกรัมละ 11.00 บาท ภาคเหนือเฉลี่ยกิโลกรัมละ
9.78 บาทภาคตะวันออกเฉียงเหนือเฉลี่ยกิโลกรัมละ 14.00 บาท ภาคกลางเฉลี่ยกิโลกรัมละ 11.37 บาท ภาค
ตะวันออกเฉลี่ยกิโลกรัมละ 11.26 บาท และภาคใต้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 11.08 บาท ขายผลผลิตที่ได้ร้อยละ
88.00 นอกนั้นเก็บไว้บริโภคและทําพันธุ์ การขายผลผลิตของเกษตรกร ขายอิสระ ร้อยละ 76.63 และ