Page 212 - รายงานการสำรวจดินเขตพัฒนาที่ดินลุ่มน้ำคลองพระเพลิงน้อยลุ่มน้ำสาขาคลองพระสทึง (รหัส 1502) ลุ่มน้ำหลักแม่น้ำปราจีนบุรี (รหัส 15) พื้นที่ดำเนินการ บ้านท่าผักชี หมู่ 6 และบ้านหนองปักหลัก หมู่ 11 ตำบลพระเพลิง อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว
P. 212

ห้องสมุดกรมพัฒนาที่ดิน


                                                                                                        163


                                          3) บริเวณดินตื้นที่มีเศษหิน หรือลูกรังโผลํมากไมํเหมาะสมตํอการเกษตรควร

                   ปลูกไม๎ใช๎สอยโตเร็วหรือสร๎างสวนป่า และหลีกเลี่ยงการใช๎พื้นที่ที่มีความลาดชันสูง ควรปลํอยให๎เป็นพื้นที่
                   ป่าธรรมชาติ หรือแหลํงต๎นน้้าล้าธาร
                                          4) พัฒนาแหลํงน้้าและระบบการให๎น้้าในพื้นที่ปลูก
                                       1.2  ปัญหาดินตื้นปนเศษหิน ก๎อนกรวด หรือลูกรังที่มีการกรํอน ได๎แกํ พื้นที่ที่พบ

                   หนํวยแผนที่ดิน Ch-gclB/d ,E   ,  Ch-hb-gclB/d ,E ,  Ch-hb,br-clB/d ,E ,  Ch-hb,br-gclB/d ,E ,
                                                                                 2g 1
                                          2g 1
                                                                                                     2g 1
                                                             2g 1
                   Ch-mw,br-gclB/d ,E ,  Ch-hb,mw-gclB/d ,E ,  Ch-hb,mw,br-gclB/d ,E  มีเนื้อที่ 2,083 ไรํ หรือ
                                                                                  2g 1
                                   2g 1
                                                         2g 1
                   ร๎อยละ 45.11 ของพื้นที่ด้าเนินการ
                                       แนวทางการแก๎ไข
                                       นอกจากการปรับปรุงบ้ารุงดินตามแนวทางแก๎ไขในข๎อ 1.1 ควรก้าหนดให๎มี
                   มาตรการอนุรักษ์ดินและน้้าเพื่อป้องกันปัญหาการชะล๎างพังทลายที่ท้าให๎เกิดการสูญเสียหน๎าดินและแรํ

                   ธาตุอาหารพืช โดยในพื้นที่ที่มีความลาดชันตั้งแตํ 2 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์มาตรการอนุรักษ์ดินและน้้าควรใช๎วิธี
                   พืช เชํน การปลูกพืชตามแนวระดับ หรือปลูกหญ๎าแฝกเป็นแถวตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่

                   การปลูกพืชสลับตามแนวระดับ การปลูกพืชคลุมดินหรือปลูกพืชไรํเศรษฐกิจแซมระหวํางแถวของไม๎ผล

                   หรือไม๎ยืนต๎น นอกจากจะชํวยป้องกันการชะล๎างแล๎วยังชํวยรักษาความชื้นไว๎ในดินได๎อีกด๎วย วิธีการเขต
                   กรรม เชํน การไถพรวนขวางความลาดเท เป็นต๎น สํวนพื้นที่ที่มีความลาดชันมากกวํา 5 เปอร์เซ็นต์ ควรใช๎

                   มาตรการอนุรักษ์ดินและน้้าในรูปแบบวิธีกลรํวมกับวิธีพืช เชํน การท้าแนวคันดินรํวมกับการปลูกพืชตาม
                   แนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ หรือปลูกหญ๎าแฝกตามแนวคันดินเพื่อชะลอการไหลบําของน้้า การ

                   ท้าคันดินเบนน้้าในบริเวณที่มีการไหลบําของน้้าจากที่สูง การท้าคูรับน้้าขอบเขาสลับกับแนวแถบหญ๎าแฝก

                   เป็นต๎น
                                       1.3  ปัญหาดินตื้นถึงชั้นหินพื้นที่มีการกรํอน ได๎แกํ พื้นที่ที่พบหนํวยแผนที่ดิน Li-
                   vgclB/d ,E  และ Li-gclC/d ,E  มีเนื้อที่ 78 ไรํ หรือร๎อยละ 1.69 ของพื้นที่ด้าเนินการ
                                           2c 2
                          1c 1
                                       แนวทางการแก๎ไข
                                          1) พื้นที่ที่ปลูกพืชไรํ หรือพืชผัก ควรมีการจัดระบบการปลูกพืชให๎หมุนเวียน
                   ตลอดทั้งปี  เลือกใช๎พื้นที่เพาะปลูกที่มีหน๎าดินหนามากกวํา  25  เซนติเมตร  และไมํมีเศษหินหรือหินพื้น
                   โผลํ  และมีการไถพรวนน๎อยที่สุด  ปรับปรุงบ้ารุงดินด๎วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 2-3 ตัน/ไรํ  หรือ
                   หวํานเมล็ดถั่วพร๎า ปอเทือง  แล๎วไถกลบระยะออกดอก ปลํอยไว๎ 1-2 สัปดาห์  กํอนปลูกพืช  เพื่อบ้ารุงดิน

                   และเพิ่มอินทรียวัตถุ  โดยใช๎รํวมกับน้้าหมักชีวภาพ และ/หรือปุ๋ยเคมีในอัตราสํวนที่เหมาะสม
                                          2) ควรรักษาความชื้นในดินโดยการปลูกพืชคลุมดินระหวํางแถวและใช๎วัสดุ
                   คลุมโคนต๎น และหากเป็นพื้นที่ที่ปลูกไม๎ผลหรือไม๎ยืนต๎นใหมํ ควรขุดหลุมปลูกให๎มีขนาด 50X50X50

                   เซนติเมตร และควรปลูกหญ๎าแฝกรอบโคนต๎นเพื่อรักษาความชื้นในดิน ควรปรับปรุงบ้ารุงดินด๎วยปุ๋ยคอก
                   หรือปุ๋ยหมัก อัตรา 25-50 กิโลกรัม/ต๎น  โดยใช๎รํวมกับน้้าหมักชีวภาพ และ/หรือปุ๋ยเคมีในอัตราสํวนที่
                   เหมาะสม  เมื่อไม๎ผลมีขนาดใหญํขึ้น  ควรมีไม๎ค้้ายันและเอาหน๎าดินบริเวณใกล๎เคียงมาผสมกับปุ๋ยหมักหรือ
                   ปุ๋ยคอกพูนโคนอยูํเป็นประจ้า  เพื่อเสริมสร๎างความแข็งแรง ท้าให๎ไมํล๎มงําย
   207   208   209   210   211   212   213   214   215   216   217