Page 20 - แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้ำสาขาคลองบำบัง
P. 20
2-5
4) ความชื้นสัมพัทธ์และศักยภาพการคายระเหยน้้า
พื้นที่ลุ่มน้้าสาขาคลองบ้าบังพบว่า มีความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดปี 79.17 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณ
การคายระเหยเฉลี่ยตลอดปี 110.81 มิลลิเมตร ปริมาณการคายระเหยสูงสุด 129 มิลลิเมตรในเดือน
เมษายน ปริมาณการคายระเหยต่้าสุด 90.90 มิลลิเมตร ในเดือนพฤศจิกายน
5) การวิเคราะห์ช่วงฤดูกาลที่เหมาะสมส้าหรับปลูกพืชเศรษฐกิจ
การวิเคราะห์ช่วงฤดูเพาะปลูกพืชเพื่อหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการปลูกพืช โดยใช้ข้อมูลปริมาณ
น้้าฝนเฉลี่ย และค่าศักยภาพการคายระเหยน้้าของพืชรายเดือนเฉลี่ย (Evapotranspiration : ETo) ซึ่งค้านวณ
และพิจารณาจากระยะเวลาช่วงที่เส้นน้้าฝนอยู่เหนือเส้น 0.5 ETo ถือเป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมใน
การปลูกพืช จากการวิเคราะห์ช่วงฤดูกาลที่เหมาะสมจากการปลูกพืชเศรษฐกิจ ลุ่มน้้าสาขาคลองบ้าบัง
สามารถสรุปได้ดังนี้
(1) ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมต่อการปลูกพืช เป็นช่วงที่ดินมีความชื้นพอเหมาะต่อ
การปลูกพืช ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนปกติอยู่ในช่วงระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนมกราคม
ของปีถัดไป ซึ่งในช่วงหลังกลางเดือนมกราคมนั้น เป็นช่วงที่มีปริมาณน้้าฝนเพียงเล็กน้อยแต่
เนื่องจากมีปริมาณน้้าที่สะสมไว้ในดิน จึงมีความชื้นในดินเพียงพอส้าหรับปลูกพืชอายุสั้นได้ แต่ควร
มีการวางแผนจัดการระบบการเพาะปลูกให้เหมาะสมส้าหรับพื้นที่เพาะปลูกแต่ละแห่ง เนื่องจากอาจต้อง
อาศัยน้้าจากแหล่งน้้าในไร่นาหรือน้้าชลประทานช่วยในการเพาะปลูกบ้าง
(2) ช่วงระยะเวลาที่มีน้้ามากเกินพอ เป็นช่วงที่ดินมีความชื้นสูงและมีฝนตกชุก อยู่
ในช่วงระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงปลายเดือนธันวาคม
(3) ช่วงระยะเวลาที่ไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืชโดยอาศัยน้้าฝน เนื่องจากมีปริมาณฝน
และการกระจายของฝนน้อย ท้าให้ดินมีความชื้นไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช อยู่ในช่วงระหว่าง
กลางเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวถ้าพื้นที่เพาะปลูกแห่งใดมีการ
จัดการระบบชลประทานที่ดีก็สามารถปลูกพืชฤดูแล้งได้
แผนการใช้ที่ดินลุ่มน้้าสาขาคลองบ้าบัง